Home
|
ข่าว

เลขาฯกกต. ย้ำได้สว.ครบ 200 คนตามไทม์ไลน์เดิม

Featured Image

 

 

 

 

เลขาฯกกต. ย้ำได้สว.ครบ 200 คนตามไทม์ไลน์เดิม ชี้ปรับแก้ระเบียบให้ผู้สมัคร แนะนำตัวผ่านโซเชียลได้ บอกต้องทำทุกอย่างตามกติกา

 

 

 

 

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเลือก สว.ที่กำหนดปฎิทินการเลือกออกมาแล้วว่า กกต.ให้ตนมายืนยันกับประชาชนว่าจะได้สมาชิกวุฒิสภา 200 คนพร้อมสำรองตามกำหนดเวลา 60 วันอย่างแน่นอน และไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะประวิงเวลา หรือเลื่อนให้ได้สว. 200 คนออกไปจากไทม์ไลน์ ที่ได้กำหนดไว้

 

เลขา กกต. กล่าวว่า สิ่งที่กังวลว่าจะทำให้ เลือก สว.ไม่ได้ตามเวลา คือ เรื่องคุณสมบัติ หรือขั้นตอนลงคะแนนแล้วไม่ได้ 5 คน หรือคนสมัครน้อย หรือเลือกแล้วกระบวนการเลือกไม่ชอบ กฎหมาย ได้รองรับเอาไว้ทุกเรื่อง เช่นเรื่องคุณสมบัติมีวิธีทำอยู่ 2 เรื่อง คือเอกสารเท็จทั้งใบสมัครและเอกสารประกอบ หากเป็นเท็จจะได้ใบดำ เพิกถอนการรับสมัคร หรือไม่รับสมัคร

 

ซึ่งศาลต้องมีคำสั่งก่อนวันเลือก 1 วัน และถ้าศาลมีคำสั่งไม่ทัน ก็เลือกไปเลยเท่าที่มีในบัญชีที่ผอ.เลือกเป็นคนประกาศ แม้ศาลจะคืนสิทธิ์อย่างไรในตอนหลัง ก็ไม่กระทบในสิ่งที่ทำไปแล้ว ดังนั้นเดินหน้าได้ตลอด หรือหากประกาศให้เป็นผู้สมัครไปแล้ว ไปเจอตอนหลังว่าผิด ลบชื่อได้ทุกชั้นจนถึงระดับประเทศ และกฎหมายรองรับว่าไม่กระทบกับสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วเช่นกัน ฉะนั้นเรื่องคุณสมบัติจึงไม่ประเด็นในการที่จะทำให้การเลือกตั้งขยายเวลาออกไป ไม่ว่ากรณีใดๆ

 

ส่วนการร้องคัดค้านเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง ที่อาจจะส่งผลให้การเลือก ล่าช้า นั้นนายแสวง กล่าวว่า ในระหว่างการนับคะแนนให้สิทธิ์ท้วงได้ หากเห็นว่าคณะกรรมการเลือกทำหน้าที่ไม่ชอบมาพากลหรือนับคะแนนผิดจากสิ่งที่แสดงให้เห็น ซึ่งกรรมการก็จะวินิจฉัยในวันนั้นทันที ถ้าไม่พอใจก็ไปร้องศาลฎีกาได้ และศาลฎีกาต้อง ตัดสินให้เสร็จก่อน 1 วัน หากตัดสินไม่เสร็จ ก็เดินหน้าเลือกต่อไป และ ไม่ผูกพันกับสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว

 

“เมื่อมาดูตามกระบวนการต่างๆจึงไม่มี ช่องไหนที่จะทำให้การเลือกสว. ครั้งนี้เกิน Road Map แม้แต่วันเดียวเราจะได้ สว.200 คนและตอนนั้น ใครมาถูกสอยทีหลังด้วยเรื่องคุณสมบัติ หรือกระบวนการของการทุจริต พูดภาษาชาวบ้านก็ถูกถูกสอย ก็มีสำรอง วิธีสำรองก็คือ มีสำรองกลุ่มละ 5 คน ครั้งแรกให้เรียกจากกลุ่มตัวเองก่อน ถ้าหมดก็ไปเรียกจากกลุ่มอื่น

 

โดยใช้วิธีจับฉลากจนเกลี้ยง ถ้าให้สว.มีเท่าที่มีอยู่ แต่ต้องไม่น้อยกว่าจริง 1 คือไม่น้อยกว่า 100 คน และถ้าเวลายังเหลือ เกิน 1 ปี ก็ให้กกตจัดการเลือกให้ครบ ดังนั้นยืนยันประเทศชาติเดือนหน้าได้แน่นอน ไม่ต้องกังวล เพราะรัฐธรรมนูญออกมาได้ครอบคลุมทุกประเด็นจึงไม่จำเป็น หรือกังวลว่าจะไม่ได้ สว. ภายในเวลา หรือไม่ได้ แล้วจะได้จำนวนเท่าไหร่ ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ กกต. สามารถประกาศได้ 200 คน ตามไทม์ไลน์แน่นอน”

 

สำหรับที่มีการร้องเรื่องการซื้อเสียงนั้น เลขากกต. กล่าวว่า เรื่องการซื้อเสียงเป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่ามีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ เราก็จะพยายามทำให้เร็วที่สุดในส่วนคำร้องเรื่องการทุจริต ส่วนที่มีกันฮั้วหรือจะตั้งกันมานั้น สำนักงานกกต.ทั้งระดับจังหวัด ได้ดูแลความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ว่ามีการดำเนินการ หรือแอบทำหรือไม่ ก็จะตามไปดู

 

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ความเคลื่อนไหวอย่างนี้กฎหมายได้ออกแบบ เพื่อป้องกันการทุจริตไว้ในระดับหนึ่งแล้วแต่เราก็ต้องมีมาตรการที่จะดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย ในการที่จะทำให้การเลือกสว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

เลขา กกต. กล่าวด้วยว่าขณะนี้ กกต. ได้แก้ไขระเบียบให้ผู้สมัครสว. สามารถแนะนำตัวทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนเช่น Tiktok Facebook YouTube Instagram สามารถทำได้ แต่สาระของการแนะนำตัวให้เป็นไปตามกฎหมายเท่าที่ตามแบบสว. 3 เท่านั้น

 

เลขากกต. ยืนยันว่า สำนักงาน กกต. ได้ทำหลายอย่างตามกฎหมาย เพราะกรรมการต้องทำตามกฎหมาย และทำเพื่อประชาชน ยืนยันพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกความคิดเห็น ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร ขอให้ยืนอยู่บนหลักการมีประโยชน์และเป็นธรรม ก็พร้อมที่จะนำมารับฟังปรับปรุงแก้ไขเท่าที่ทำได้

 

ซึ่งต้องยอมรับว่าการเลือกสว.ครั้งนี้มีความสลับซับซ้อน สังคมมีความเห็นต่าง มองในสิ่งที่ตัวเองต้องการเห็น สิ่งที่จะทำให้เราเดินไปถึงจุดหมายร่วมกันได้ก็คือกติกา ดังนั้นหากมีความคิดเห็นบนพื้นฐานของกติกา เรื่องจะง่าย ยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมายเป็นธรรม ให้โอกาสคนทั่วไป

 

สำหรับการปฏิบัติตัวของสื่อนั้น เลขา กกต. ยืนยันว่า ไม่มีระเบียบไหนที่กระทบกับการทำงานของสื่อ โดยยังคงสัมภาษณ์เรื่องทั่วไปได้ แต่ตัวผู้สมัครห้ามแนะนำตัวเอง ว่า ลงสมัครเบอร์นั้นเบอร์นี้ ขณะที่สื่อที่ไปลงสมัคร ก็ยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ แต่ต้องไม่ไปแนะนำตัวหรือบอกคุณสมบัติของตัวเอง จึงไม่ได้ริดรอนการทำงานของสื่อแต่อย่างใด

เลขา กกต. กล่าวด้วยว่า ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลผู้สมัครสว. ได้ 2 ช่องทาง ภายหลังปิดรับสมัครกกต.จะเปิดเผยทุกรายชื่อ ทุกกลุ่ม ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ว่าใครลงสมัครอย่างไรมีประวัติและมีประสบการณ์ในการทำงานอย่างไรทาง Application Smart vote และ เว็บไซต์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งหากประชาชนเห็นว่าคนไหนมีลักษณะต้องห้าม ก็สามารถ ให้ข้อมูลกับกกต.ได้

 

ส่วนกรณีที่คณะก้าวหน้าและไอลอร์สามารถแนะนำผู้สมัคร ได้เหมือนกับสื่อเลยหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขอให้ระวังตัวเองก็แล้วกัน เพราะ คำว่า สื่อหรือผู้อื่นคือคนเดียวกัน หากรู้เห็นเป็นใจในการทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็จะต้องได้รับโทษตรงนั้น ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงในการวินิจฉัย ถ้าผู้สมัครไม่สบายใจ ต้องบอกว่าอย่ามาทำให้ตน

 

แต่หากรับประโยชน์ตลอด ก็ต้องพิสูจน์ว่ารู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ยืนยันว่า การรณรงค์และเชิญชวนไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้บอกว่าใครมีอาชีพอะไร ทำได้ทั้งนั้น แต่อย่าไปช่วยเหลือหรือแนะนำตัวในสิ่งที่ผิด เพราะระเบียบแนะนำตัวให้ผู้สมัครดูแลตัวเอง ก็ต้องดูว่าใครช่วยเขาได้บ้าง ดังนั้น สื่อทำหน้าที่ได้ตามปกติ แต่ผู้สมัครก็จะต้องดูแลตัวเอง โดยทั้งหมดต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริงจะวินิจฉัยอะไรตอนนี้ไม่ได้

 

ส่วนจะได้วุฒิสภาหน้าตาอย่างไรนั้น เลขากดต. กล่าวว่า คงตอบแทนทุกคนไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในชาติ เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบเอาไว้ โดยกกต.จะมีมาตรการเกี่ยวกับการเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยความสุจริตเที่ยงธรรม

ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ว่า ด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกกันเองของบุคคล ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ มีอาชีพลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานด้านต่างๆที่หลากหลายของสังคมซึ่งหมายความว่า ไม่ได้เลือกจากคะแนนนิยม ไม่เหมือนสส.ที่เลือกจากคะแนนนิยมในการเสียง แต่เนื่องจากคือคนที่มีลักษณะอย่างนี้ ซึ่งอยู่ในใบแนะนำตัว

 

โดยเลือกจากอดีต ซึ่ง กกต. ทำในสิ่งที่คนอื่นคิดและทำไว้ตามรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งครั้งนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว หากเห็นว่าเลือกแล้วไม่ได้ผลอย่างที่อยากจะได้ ก็ต้องแก้ไข ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจและเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องไปพิจารณาเรื่องนี้ ว่า สว. ที่ออกแบบไว้ ต้องการคนดี คนเด่น คน ดังนั้น โดยเป้าหมายใช่แต่วิธีการไม่ได้ ก็อาจจะต้องไปแก้วิธีการ ถ้าตั้งเป้าหมายและวิธีการไม่ได้ ก็ต้องไปแก้ไขที่รัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่าจะมีอะไรรองรับกรณีที่ไอลอว์ ร้องศาลปกครองว่าระเบียบการเลือก สว. คลุมเครือ อย่างไรนั้น เลขา กกต.กล่าวว่า รอดูวันที่ศาลมีคำวินิจฉัยไม่ได้มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่ตนได้ย้ำตั้งแต่ตอนแรก ว่า ให้กลับไปดูที่กฎหมายก่อน ว่ากฎหมายให้ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกฎหมายให้เราทำอะไรได้ แค่นี้ เราไม่ได้เป็นคนคิดกฎหมาย

 

ส่วนเรื่องการประกาศระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัว ผู้สมัคร สว. โดยทาง กกต. จะส่งให้ทางสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และคาดว่าจะประกาศในราชกิจานุเบกษาได้ในวันพรุ่งนี้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube