“จิรัฏฐ์” อภิปรายขอตัดงบฯศาลรัฐธรรมนูญ10%
สภา พิจารณาพรบ.งบฯ ต่อเนื่อง กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอปรับลดงบฯชดเชยโครงการสินค้าเกษตร ขณะ “จิรัฐฏ์” ขอตัดงบฯศาลรับธรรมนูญ 10%
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3,480,000 ล้านบาท ในวาระที่ 2 เรียงรายมาตรา วันสุดท้าย ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมเพียงคนเดียวจนจบ เนื่องจากประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ติดภารกิจไปต่างประเทศ
สำหรับการพิจารณามาตรา 29 งบประมาณรายจ่ายของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกรรมาธิการปรับลดลงกว่า 98 ล้านบาท เหลือกว่า 65,400 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้จำนวนกว่า 65,500 ล้านบาท โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อย และ สส.ที่สงวนความเห็นและคำแปรญัตติ อภิปรายเสนอให้ปรับลดงบประมาณเพิ่มเติมอีกในส่วนของงบประมาณการชดเชยโครงการสินค้าเกษตร และงบโครงการพัฒนาสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยของการเคหะแห่งชาติ
จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ ชี้แจงถึงการชดเชยโครงการสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ปี 2554/55 , ปี 2555/56 และปี 2556/57 วงเงิน 20,000 ล้านบาท ว่า การชำระเงินดังกล่าวเป็นโครงการเดิม และเป็นข้อตกลงระหว่างสำนักงบประมาณ และธนาคารในกำกับของกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำราคาสินค้าเกษตร ทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ซึ่งตั้งงบประมาณชดเชยต่อเนื่องและอยู่ในกรอบที่ดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปีต่อไป เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลทั้งอดีตและปัจจุบันต้องการสนับสนุนภาคการเกษตร เป็นการตั้งงบประมาณเพื่อเป็นกลไกลสนับสนุนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งและสามารถให้ความช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป
พร้อมยืนยันถึงโครงการพัฒนาสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยของการเคหะแห่งชาติ ว่า รัฐต้องอุดหนุนเต็มจำนวนเพื่อช่วยให้กลุ่มเปราะบางที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
ส่วนมาตรา 31 งบหน่วยงานของศาล กรรมาธิการเสียงข้างมากมีมติปรับลด 36 ล้านบาท โดยนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้แปรญัตติสงวนความเห็น ขอปรับลด 10% อภิปรายว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีโครงการส่งคนไปเรียนตามหลักสูตรต่างๆ เช่น พตส. วปอ. แล้วหน่วยงานเหล่านั้นก็ผลัดกันส่งคนมาเรียนที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการผลัดกันเกาหลัง นอกจากนี้ ยังมีงบเสริมสร้างบุคลากร แต่ก็ใช้งบไปเที่ยว 3 วัน 2 คืน จะสร้างองค์ความรู้กันที่สำนักงานตัวเองก็ไม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ สัมมนาเครือข่ายทางวิชาการ เพื่อกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญ “1 ล้านบาท มองว่า ก็เป็นการไปเที่ยวกัน ใช้คำวนไปวนมา จึงคิดว่ามันไม่เป็นประโยชน์ แต่ยังทำทุกปีทำเป็นประจำ รวมถึงงบที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของบรถประจำตำแหน่งมา เนื่องจากใช้งานมาแล้ว 6 ปี ตอนนี้จะครบ 6 ปีแล้ว เลยต้องรีบขอรถเบนซ์ S350d มองว่า ไม่จำเป็น เราทราบกันดีอยู่แล้วว่างบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีเยอะ 57 ล้านต่อปี ยังไม่นับค่าประชุม เบี้ยรับรอง แต่ปีที่แล้วทำงานกันแค่ 24 คดี ถ้าย้อนกลับไปเฉลี่ยแค่ 16 คดีต่อปี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





