“กรมเจรจาฯ “จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลุยอีสาน เตรียมพร้อมสินค้าเมืองดอกคูน ใช้ประโยชน์จาก FTA ก้าวสู่ตลาดโลก
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ภายใต้โครงการพัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี (ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์) เพื่อจัดสัมมนาและพบหารือกับเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ทั้งสินค้าผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากจิ้งหรีด และมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง โดยนำทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการทำตลาดให้ความรู้และช่องทางการใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายส่งออกสู่ตลาดการค้าเสรี
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้พบหารือกับกลุ่มทอผ้าไหมบ้านนาผาย อำเภอชนบท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทอผ้าไหมมัดหมี่มีลวดลายสวยงาม อาทิ ลายแคนแก่นคูน และลายเต่าน้อย โดยเป็นลวดลายเอกลักษณ์ดั้งเดิมของขอนแก่น และมีความเชี่ยวชาญการทอผ้าไหมลายใหม่ๆ โดยให้คำแนะนำเรื่องการชูอัตลักษณ์ของผ้าไหม เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าในพื้นที่ ตอบสนองนโยบาย Soft power รวมทั้งแนะแนวทางการแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่ม เช่น การนำผ้าและเศษผ้ามาตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป และกระเป๋า เป็นต้น สำหรับการพบหารือกับศิวะพณฟาร์ม อำเภอชุมแพ
ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงและแปรรูปจิ้งหรีด โปรตีนทางเลือก อาทิ จิ้งหรีดกระจก ข้าวเกรียบจิ้งหรีด และจิ้งหรีดทอดสุญญากาศ ที่นำแมลงวัน BSF มาใช้เป็นอาหารเลี้ยงจิ้งหรีด เพื่อลดต้นทุน ซึ่งเป็นสินค้า BCG โดยกรมแนะนำเรื่องการให้ความรู้กับผู้บริโภคเรื่องโปรตีนจากจิ้งหรีด สร้างความเชื่อมั่นเรื่องสินค้าที่มีมาตรฐานและความปลอดภัย และเป็นสินค้า Future food
รวมทั้งเสนอให้นำผงโปรตีนจากจิ้งหรีดผสมในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริโภคเป็นประจำ อาทิ ผงปรุงรส ซุปก้อน น้ำปลาร้า สเปรดโปรตีน หรือใส่ในขนมไทย เพื่อชูคุณสมบัติว่าเป็นสินค้าที่มีโปรตีนสูง
นอกจากนี้ กรมได้จัดสัมมนาและพบหารือกับวิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮดเพื่อการส่งออก อำเภอบ้านแฮด ซึ่งเป็นผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดพรีเมียม ส่งออกไปตลาดจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยมีพื้นที่เพาะปลูก 1,500 ไร่ ผลผลิต 800-1,000 ตันต่อปี กรมได้แนะนำเรื่องการเตรียมตัวส่งออกไปตลาดใหม่ อาทิ ตะวันออกกลาง และสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเมื่อจัดทำ FTA กับประเทศเป้าหมายแล้วเสร็จ
และการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกพืชเสริมจากมะม่วงเพื่อเพิ่มรายได้ โดยเฉพาะกาแฟโรบัสต้า และเพิ่มการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เรื่องคุณภาพสินค้าให้กับผู้บริโภคภายในประเทศ
“การลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่า จังหวัดขอนแก่นมีสินค้าเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่และสามารถเพิ่มและรักษาฐานตลาดส่งออกในประเทศคู่ค้าเดิม รวมทั้งสามารถขยายการส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA อื่นๆ โดยเฉพาะอาเซียนที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งมีความได้เปรียบด้านต้นทุนโลจิสติกส์ไม่สูงมาก และบริโภคสินค้าไทย พร้อมทั้งเตรียมใช้ประโยชน์จาก FTA ฉบับใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป จาก FTA ไทย-EU และไทย-EFTA นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยควรเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยเฉพาะการแปรรูปและแหล่งที่มาของสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเข้าสู่ตลาดในระยะยาว”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
