fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ ยันไม่รื้อรังนกกระจอกแค่ปรับปรุงให้ดีขึ้น

Featured Image
นายกฯ เข้ารังนกกระจอก ยันไม่รื้อแค่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น สะดวก-สบาย ต่อการทำงาน เปิดอกคุยสื่อหนักใจเป็นนายกฯ 3 เดือน ขึ้นค่าแรงน้อยไม่แฮปปี้ แต่จะพยายามแม้เป็นอำนาจของไตรภาคี ตั้งใจอยู่ครบ 4 ปี ขอสื่ออย่าโยงสีถุงเท้า เข้าการเมือง

 

 

 

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงมาพบปะสื่อมวลชนรังนกกระจอก และสอบถามถึงความเป็นอยู่และบอกถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงรังนกกระจอก ว่า ถ้าจะทุบของเก่าคงไม่ได้ โดยจะต้องใช้การปรับปรุง พร้อมกับระบุว่า สื่อมวลชนเขียนข่าวลือเร็วเกินไปว่าจะมีการปรับปรุงรังนกกระจอกให้เป็น Co-working space พร้อมยืนยันว่า “ผมไม่ได้ย้ายรังนกกระจอก คุณเขียนแบบนี้ผมไม่คิดจะย้าย แต่ผมจะทำให้ดีขึ้น มันก็มีคนไปปั่นว่าผมจะย้าย”

 

 

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะย้อนถามกลับสื่อมวลชน “คุณก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือ อยากปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น ขยายไซด์ให้มันใหญ่ขึ้น” ซึ่งการจะปรับปรุงก็ต้องมีการออกแบบ ที่จะต้องให้ทางกรมศิลปากร ดูแต่หลักใหญ่คือต้องการให้มีความสะดวกสบายในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังขอให้นายกฯมาดูห้องผู้สื่อข่าว 3 ว่ามีความคับแคบ นายกรัฐมนตรีได้บอกต่อว่าหากจะให้มีการปรับปรุงตรงไหนก็ขอให้แจ้ง

 

 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้แซวว่าวันนี้นายรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าสีส้ม แต่นายกรัฐมนตรีบอกว่าวันนี้ใส่สีแสด ผู้สื่อข่าวเลยถามกลับว่าเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีไม่ชอบสีส้มใช่ไหม นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบสีส้ม แต่ผมใช้คำว่าสีแสด อย่าบิดไปทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าทุกสี แต่ชอบใส่สีแดงมากกว่าสีอื่นและใส่แบบนี้มานานมากแล้ว ถ้าใครติดตามตนจะทราบโดยเฉพาะนักข่าวเศรษฐกิจ

 

 

ส่วนการทำงานกับผู้สื่อข่าวการเมืองตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่มีปัญหา แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเองโดยไม่รู้สึกโกรธเวลาที่ถูกถามด้วยคำถามที่แรง ซึ่งหน้าที่ผู้สื่อข่าวคือการสื่อสาร บางครั้งที่ตนเองตอบและพูดตรงๆเป็นหน้าที่ เมื่อถามย้ำว่านายกฯจะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ “ผมตั้งใจ ผมตั้งใจ”หากอยู่ครบ 4 ปีก็เป็นธรรมดาที่มีเรื่องจะต้องสู้เยอะ เพราะเป็นความต้องการของประชาชนแต่ถ้าหยุดทำงานก็จะบ่งบอกถึงจุดจบ ซึ่งไม่มีอะไรที่จะบันทอนจิตใจ

 

 

ส่วนช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีเรื่องอะไรที่ทำให้บันทอนจิตใจหรือไม่ นายกฯหยุดคิดสักครู่ก่อนจะตอบว่า “เอาตรงๆเลยนะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกี่ยวกับฝ่ายการเมือง ฝ่ายผู้สื่อข่าว แต่เรื่องที่สะเทือนใจที่สุดคือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของไตรภาคี ผมไม่ได้เสียใจที่มีคนกล่าวหาว่านายกทำอะไรไม่ได้ ซึ่งช่วงเช้าผมก็ได้พูดไปแล้ว” นายกฯถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “เอางี้ พวกคุณจบมาย้อนหลังไป 10 ปี ถ้าเงินเดือนคุณ 15,000 นั้นหมายความว่าเงินเดือนคุณจะขึ้นเป็น 17,000 ตลอดระยะเวลา กว่า 9 ปี เพราะขึ้นแค่12 %” และได้ถามกลับว่าทุกคนแฮปปี้ไหม

 

 

เมื่อถามว่าตอนที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนทำอย่างไรกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า ให้ไปดู Digital footprint ว่าตนเคยโวยวายหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อถามต่อว่านายกรัฐมนตรีได้ไปดูในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีทำไมถึงทำได้ในการปรับขึ้นค่าแรง นายกฯกล่าวว่า สมัยก่อนกับสมัยนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป

 

 

ซึ่งไม่แน่ใจว่า 9 ปีที่แล้ว ไตรภาคีมีอำนาจกับการปรับขึ้นค่าแรงหรือไม่ แต่ทั้งนี้แม้ว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ก็จะผลักดันต่อไป พร้อมระบุว่าเราอาจจะคุยในแต่ละสาขาอาชีพและให้แก้ไขกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องแก้ไขกฎหมายเป็นวิธีคิดซึ่งสามารถคิดได้ ทั้งนี้นายกฯได้ย้ำว่าการขึ้นค่าแรง อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา เช่น เรียนจบมา 9 ปี ได้เงินเดือนมา 30,000 บาท มาถึงตอนนี้ ได้เงินเดือนแค่ 33,700 บาท พอใจหรือไม่ ส่วนมีเรื่องอะไรที่นายกฯ แฮปปี้ที่สุด หลังจากเป็นนายกฯ นายกฯระบุว่า ไม่มีอะไรแฮปปี้ที่สุดการได้มาเป็นนายกถือว่าเป็นหน้าที่

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube