ทนายวิญญัติ ปรามนักเลงคีย์บอร์ด ล้ำเส้นวิจารณ์ให้ร้าย นช.ทักษิณ ไม่ป่วยจริง ด้านโฆษก รพ.ตำรวจ ย้ำไม่มีอำนาจให้บุคคลใด้เข้าเยี่ยม ชี้เป็นอำนาจของราชทัณฑ์
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุ #อย่าล้ำเส้น
ผู้ใดเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือ ให้ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
การอ้างข้อเท็จจริงเลื่อนลอยให้สังคมหรือประชาชนเกิดความสับสน โดยไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง หรืออ้างว่ามีหน้าที่ แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นโดยจงใจ หรือมุ่งหวังกระแสสังคมให้คิดลบหรืออาศัยสถานะของตนที่มีช่องทางสื่อสาร สัมภาษณ์ต่อสาธารณะโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ทำให้เสื่อมเสียต่อ ชื่อเสียง เกียรติยศ นั่นคือเจตนากระทำความผิดต่อกฎหมาย
อนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขสำคัญและภายใต้อายุความ
จึงจำเป็นที่ต้องใช้สิทธิ์ ดำเนินคดีกับผู้ใดก็ตาม
ที่กระทำการละเมิดสิทธิของ นายทักษิณ ชินวัตร.
21 ธันวาคม 2566 09. 27น.
หมายเหตุ:ในฐานะทนายความ เมื่อพบเห็นการกระทำใดหรือความพยายามใช้สิทธิที่เข้าข่ายเจตนากระทำละเมิดสิทธิของลูกความ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องปกป้องสิทธิใดๆ ตามครรลองและตามกฎหมาย
“ผู้ใดเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือ ให้ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง”
ต่อมา นายวิญญัติ ยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง เพื่อเป็นการป้องปรามกับบุคคลหรือกลุ่มคน(เกรียนคีย์บอร์ด)?ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องของอาการป่วยของนายทักษิณที่ระบุว่าไม่ได้ป่วยจริงหรือให้ร้ายโรงพยาบาลตำรวจรวมทั้งตัวนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐหลายหน่วยก็ยืนยันว่าป่วยจริง แม้ว่าการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิ์แต่หากบิดเบือนข้อเท็จจริงก็จะทำให้บุคคลที่กล่าวถึงได้รับความเสียหาย แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน แต่ยังไม่มีการดำเนินการกับบุคคลใดและไม่ได้เป็นโต้ตอบ แต่ทุกอย่างอยู่ในระหว่างการตรวจสอบหากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า พื้นที่การควบคุมผู้ต้องขัง ตามคำสั่งศาลเป็นพื้นที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 รวมถึง โรงพยาบาลตำรวจมีหน้าที่รักษาคนไข้เพียงอย่างเดียว
อีกทั้งพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 (มาตรา 7) ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคล นั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการหรือกฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้
โรงพยาบาลตำรวจ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการเข้ามาทำข่าวในพื้นที่ ให้ระมัดระวังการนำเสนอภาพข่าวหรือภาพ เพื่อไม่ให้ไปกระทบสิทธิผู้ป่วยและประชาชนที่มาใช้บริการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
