fbpx
Home
|
ข่าว

“นลินี” เล็งเจรจาอินโดฯ ฟื้นฟูประมงทะเล

Featured Image
“นลินี” เล็งเจรจาอินโดฯ ฟื้นฟูการประมงทะเล พร้อมใช้เวที APEC ถกแก้ปัญหา ตั้งเป้านำไทยกลับเป็นเจ้าสมุทร

 

 

นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทยในฐานะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมประมง เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 29 ก.ย.66 ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และตนร่วมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างประเทศ จะเข้ามารับผิดชอบเรื่องการเจรจากับต่างประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญภายใต้คณะอนุกรรมการ 6 ด้านที่จะตั้งขึ้น มีเป้าหมายเพื่อนำประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง

 

 

สำหรับการเจรจาระหว่างประเทศตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งไปที่การสร้างความร่วมมือกับคู่เจรจา เช่น การขอเปิดน่านน้ำอินโดนีเซีย และการลดอุปสรรคต่างๆ เช่น การบังคับติดตั้งวิทยุขาวดำบนเรือ เป็นต้น โดยการเจรจากับอินโดนีเซียนั้นที่ผ่านมาไทยเคยมีเรือประมงเข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำอินโดนีเซียกว่า 1,000 ลำ นำทรัพยากรกลับมายังประเทศไทยปีละกว่า 600,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท

 

 

จากนั้นอินโดนีเซียได้ปิดน่านน้ำไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปทำการประมงตั้งแต่ปี 2557 แต่ขณะนี้มีแนวโน้มที่จะเปิดน่านน้ำอีกครั้ง เราจึงต้องใช้โอกาสนี้เข้าไปเจรจาเพื่อร่วมมือกัน เพราะอินโดนีเซียมีแนวทางที่จะเปิดให้ต่างชาติเข้าไปร่วมลงทุนกับกิจการประมงของอินโดนีเซียแบบครบวงจร และอนุญาตให้แรงงานต่างชาติทำงานบนเรือประมงได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับไทย ช่วยเพิ่มผลผลิตลดการนำเข้า สามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปและส่งออก ทำให้เกิดการหมุนทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาทต่อไป และจะมีการจัดสรรผลประโยชน์ที่เป็นธรรมให้กับทางอินโดนีเซียด้วย

 

 

นอกจากนี้การเจรจาระหว่างประเทศจะต้องไม่สร้างความขัดแย้งหรือกระทบกระทั่งกับคู่เจรจาอย่างกรณีของอียู และต้องใช้เวทีการหารือระหว่างประเทศต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ อย่างเช่นการประชุมระดับผู้นำ APEC 2023 ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยคำนึงถึงการเคารพกฎหมาย ผลประโยชน์ที่ทุกฝ่ายจะได้รับ และการสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กันด้วย

 

 

แม้เราจะส่งออกสินค้าอาหารทะเลแปรรูปเป็นอันดับต้นๆของโลก และมีรายได้มากกว่าแสนล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมประมงได้รับผลกระทบจากกฎกติการะหว่างประเทศ เมื่อเรารับฟังปัญหาแล้วจึงต้องเร่งแก้ไข เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือชาวประมงและผู้ประกอบการ ทั้งประมงพื้นบ้าน ชายฝั่ง และพาณิชย์

 

 

เราพบว่าตัวเลขส่งออกสินค้าประมงลดลงและต้องนำเข้ามากขึ้น คนทำอาชีพประมงน้อยลง โรงงานขนาดเล็กต้องปิดตัว ทะเลหลวงเดินทางไม่สะดวก และยังมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงอีกมากกว่า 1,000 คดี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลตั้งใจเข้ามาสะสางและช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube