fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯถกชัชชาติ ตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากทม.

Featured Image
นายกรัฐมนตรี หารือ ผู้ว่า กทม. ตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร ระบุ พร้อมหนุนการทำงาน ทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ พร้อมชนหมัด-โอบไหล่ โชว์ความเป็นพี่น้อง ด้าน ชัชชาติ ชี้แจง ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ในสภา กทม. คาด 1-2 สัปดาห์ส่งให้ มท.

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการจัดตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพูดคุยในวันนี้เป็นการพูดคุยกันแบบสบายๆ เป็นกันเอง อยากจะเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ซึ่งจะเป็นวิธีที่ทำให้พูดคุยกันได้อย่างสบายใจ

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า กทม. เป็นจังหวัดที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของจีดีพีของประเทศ และประชาชนมีความคาดหวังเรื่องของรายได้จากการท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องฝุ่น ปัญหารถติด ตนเองกับนายชัชชาติ รู้จักกันมานาน และเราคุยกันมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 นายชัชชาติ ได้ไปหาตนเองตั้งแต่ที่ทำการเก่า ซึ่งตนเองได้บอกว่า นายชัชชาติ น่าจะสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปสมัครเป็นผู้ว่า กทม. แต่นายชัชชาติ บอกว่า ขอเป็นผู้ว่าฯ ดีกว่า และให้ตนเองลงเป็นนายกรัฐมนตรีแทน จะได้ทำงานร่วมกันแบบพี่น้อง มาพูดคุยกันแบบสบายๆ ซึ่งตนเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีบรรยากาศอย่างวันนี้ที่มานั่งคุยกันแบบพี่น้อง

 

หลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 1 สัปดาห์ 1 ในบุคคลที่คิดถึงแรกๆ คือ “ผู้ว่าฯชัชชาติ” และท่านก็มาด้วยฉันทามติของประชาชน 1.4 ล้านเสียงซึ่งสูงมาก จึงเป็นภารกิจแรกที่อยากจะพูดคุยและสนับสนุนให้นายชัชชาติ ทำงานลุล่วงด้วยดี โดยกรุงเทพฯ เป็นภาคส่วนที่สำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ ปัญหามีมากมาย

 

อีกทั้ง การพูดคุยในวันนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ตนเองรับประทานกลางวันร่วมกับนายชัชชาติ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงมีแนวคิดกันว่าให้มีคณะกรรมการชุดเล็กประมาณ 6-7 คน ขับเคลื่อนกรุงเทพฯ ด้วยการใช้นโยบาย เพราะเรื่องงบประมาณคงมีน้อยมาก ซึ่งหน้าที่ของรัฐบาลคือสนับสนุนผู้ว่า กทม. แก้ไขปัญหา อะไรที่ทำได้ให้ทำไปก่อน ซึ่งจะหนักไปในเรื่องของการประสานงานไปยังหน่วยงานราชการต่างๆที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี

 

เช่น การจราจร รถติด อาชญากรรม พร้อมย้ำว่าจะสนับสนุนผู้ว่า กทม. ให้ทำกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องรัฐสนับสนุน ว่า ตนเองมีหน้าที่สนับสนุนน้องชาย ที่ดูแลที่ดูแลภาคส่วนที่ใหญ่ จังหวะนี้ทำให้นายชัชชาติ ยิ้ม และยกมือไหว้ขอบคุณ นายกรัฐมนตรี จึงรับไหว้ตอบ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวต่อว่า จะช่วยสั่งการในส่วนที่ กทม. ไม่มีอำนาจโดยตรงผ่านคณะกรรมการเล็กๆ เช่น นายอนุทิน จะช่วยดูเรื่องการไฟฟ้า, กระทรวงคมนาคมจะช่วยดูเรื่องรถเมล์ รถไฟฟ้า, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะช่วยดูเรื่องจราจร และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานและจะแถลงขั้นตอนการทำงานให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้ง

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมา 1ปี เห็นปัญหาของ กทม. ที่ชัดเจน คือ การติดต่อประสานงาน มีอำนาจค่อนข้างจำกัด หากมีความชัดเจนจากฝ่ายบริหารจะช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้มาก ซึ่งในช่วงแรกมีคณะทำงานเพียงไม่กี่คน ที่มาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม ตำรวจ และนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เน้นที่โครงการใหญ่ ไม่เน้นการลงทุน แต่เน้นผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาต่อประชาชน

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างต้องดำเนินการในระยะต่อไป เช่น การแก้ไขพระราชบัญญัติ ที่ต้องแก้ไขในระยะยาว ส่วนการประสานงานจะดำเนินการในคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งกำหนดแล้วว่าคณะทำงานมีไม่มาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วย

 

โดยเบื้องต้นได้พูดคุยถึงปัญหาการจราจร และการก่อสร้าง ซึ่ง กทม. รับผิดชอบเพียงส่วนหนึ่ง และเป็นความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้า กรมทางหลวง การทางพิเศษ การไฟฟ้านครหลวง และการประปา ดังนั้น การที่กรุงเทพมหานครจะไปผลักดันเรื่องต่างๆด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากมีทิศทางที่ชัดเจนก็จะช่วยบรรเทาเรื่องเหล่านี้ไปได้

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเชื่อมโยงทางเท้า วิน มอเตอร์ไซค์ รับจ้าง รถไฟฟ้า รถเมล์ ให้เป็นภาพรวมเดียวกัน ซึ่งไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการลงทุนเลย เป็นเรื่องเชิงนโยบายทั้งหมด และพูดคุยถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ จะสามารถสร้างเป็นซอฟพาวเวอร์ 50 ย่าน จาก50 เขตได้ รวมไปถึงพูดคุยปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินของประชาชน ที่มีบางส่วนค้าขายหาบเร่แผงลอยบนทางเท้า แต่หากมีหน่วยงานใดที่จะแบ่งปัน เช่นใต้ทางด่วนให้สามารถทำมาหากินได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ก็จะสามารถบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจกับประชาชนได้

 

ขณะเดียวกัน ยังได้พูดคุยถึงเรื่องปัญหาของนักท่องเที่ยว ที่ประสบปัญหาไกด์ผี ตุ๊กตุ๊กผี แท็คซี่ผี ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ และมีแนวคิดที่จะทำโครงการเทศกาลฤดูหนาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจใน กทม. ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ในนโยบายอยู่แล้วและจะเร่งผลักดันต่อ

 

ส่วนปัญหาสายสื่อสารกรุงเทพมหานครสามารถดำเนินการได้แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องเชื่อมโยงกับ กสทช. อยู่ดี ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเร่งด่วน นายชัชชาติ ย้ำด้วยว่ายังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องงบประมาณ แต่พูดคุยถึงเรื่องการประสานงานและการมีเป้าหมายที่ตรงกันเพื่อให้มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม

 

สำหรับกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นปัญหา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย และยังมีขั้นตอนอีกมาก ซึ่ง กทม.ได้ทำหนังสือตอบกลับ หลังกระทรวงมหาดไทยส่งคำถามมาจำนวนมาก นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สภา กทม. คาดว่าจะใช้เวลาส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยใน 1-2 สัปดาห์นี้ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และเอกชนที่มาลงทุน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีรถไฟฟ้าอีกหลายสายที่เชิญเอกชนมาร่วมลงทุน จะต้องเกิดความโปร่งใส และประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด

 

ช่วงท้ายหลังการพูดคุยเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้ขอให้นายกรัฐมนตรี กับ นายชัชชาติ ถ่ายรูปร่วมกัน โดยนายชัชชาติ ได้ยื่นกำปั้น ทำให้นายกรัฐมนตรี ได้ยื่นมือมาชนหมัดตอบ ซึ่งถือเป็นท้าประจำของนายชัชชาติ ทำให้ผู้สื่อข่าวแซวต่อว่า เป็นภาพพี่ชาย กับ น้องชาย ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีจึงบอกว่า “เพื่อนกัน” ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเอามือโอบกอดไหล่นายชัชชาติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube