fbpx
Home
|
ข่าว

“ชวน” โว เล่นการเมือง 17 สมัยไม่เคยซื้อเสียง

Featured Image
“ชวน” เผย เล่นการเมือง 17 สมัยไม่เคยซื้อเสียง พร้อมให้คะแนนกระบวนการเลือกตั้งติดลบ แนะ กกต.อย่าจัดการพอผ่าน ต้องตรวจสอบให้สุจริตเที่ยงธรรม

 

 

 

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ฉากทัศน์ประเทศไทยหลังการจัดตั้งรัฐบาล” ที่สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งจัดขึ้นว่า วันนี้การเมืองเข้ามาสู่ยุคที่ต้องมี กกต.ขึ้นมา ยุคที่เราใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 แล้วก็ล่มจนต้องมีรัฐธรรมนูญปี2550 กกต.ได้เกิดขึ้นและมีภารกิจในการจัดการเลือกตั้งและทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต ยุติธรรม ตนพูดด้วยความเห็นใจเพราะอยู่กับการเลือกตั้งมา 17 สมัย

 

 

ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปทางบวกคือประชาธิปไตยเติบโต เกิดความตื่นตัวประชาชนเข้าใจสิทธิหน้าที่มากขึ้น เรามีนักการเมืองที่มีความรอบรู้ แต่ในสภาอ่านไอแพดอยู่ แต่สิ่งที่ต้องเรียนด้วยความเคารพนั้นกระบวนการการเลือกตั้งโดยชอบธรรมนั้นตนว่าติดในทางลบ ตนเป็นนักการเมืองรุ่นแรกรุ่นไม่โกงไม่ซื้อเสียง

 

 

ถ้าต้องซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียวตนก็ไม่เป็น แต่บังเอิญสมัยนั้นในจังหวัดตนมีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงที่สร้างไว้ก่อน และประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมตนก็อาศัยบารมีด้วยตนเองจนได้สส. 11 สมัยร่วมทั้งครั้งที่ 12 แม้พรรคเราแพ้ทั้งประเทศ จึงถือว่าเป็นความนิยมส่วนตัว

 

 

ดังนั้นแล้วการเมืองระบบเลือกตั้งความต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งสำคัญ การที่เราไม่ได้มีเลือกตั้งมา 5 ปีแล้ว ทำให้คนลืมความดีความชั่ว รัฐบาลชุดนั้น พยายามประคับประคองกันแล้วก็เดินต่อไม่ได้ ประชาธิปไตยครั้งนี้หลังเลือกตั้ง และรัฐบาลชุดนี้ 19 พรรค หลังเลือกตั้งการตั้งรัฐบาล นั่นเป็นตัวเลขที่ชี้ถึงความอยู่รอดของรัฐบาล ทุกวันนี้ต้องเป็นเสียงข้างมาก

 

 

โดยรัฐบาลชุดที่แล้วที่มี 19 ล้านเสียง แต่ตนเคยบอกว่ารัฐบาลครั้งนี้มี 3 พรรคจัดตั้งรัฐบาลได้เลยคือ พรรคก้าวไกล เพื่อไทย และภูมิใจไทย แต่ก็เกิดปัญหากันเรื่องนโยบาย จึงไม่สามารถตั้งได้ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันถ้าดูตัวเลข 314 เสียงเทียบกับตัวเลขฝ่ายค้านที่มี 184 คน เปรียบเทียบแล้วเข้มแข็งพอบริหารได้

 

 

นายชวน กล่าวว่า เลือกตั้งกี่ครั้งก็ตามถ้าเราทำงานลำพังคนเดียว ก็ทำได้เพียงทำให้การเลือกตั้งจบแล้วประกาศผลเท่านั้น แต่เป็นการเลือกตั้งโดยชอบหรือไม่ก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ สังคมปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยสนใจ สื่อก็ไม่สนใจขอเพียงชนะมาก็จบ จะซื้อมาโกงมาก็ไม่สำคัญ ถ้าค่านิยมเป็นอย่างนี้คนที่หวังเล่นการเมืองด้วยการใช้เงินจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร นี่เป็นความก้าวหน้าในทางลบต่อระบบประชาธิปไตย คิดว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อมีรัฐบาลแล้ว กกต.ก็ต้องเตรียมรับภาระความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น

 

 

ปัจจุบันนี้รัฐบาลอยู่ 4 ปี,สภาอยู่ 4 ปีถ้าเกิดความประมาทขึ้นแม้จะมีเสียง 314 เสียงก็ตามถ้าเผอิญไปทำอะไรที่ขัดต่อแนวทางความชอบธรรมของบ้านเมือง เช่น เกิดมีคนทุจริตเข้ามา ซึ่งคิดว่ารัฐบาลก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่แน่ใจหรือว่าทุกคนจะวางใจได้ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สามารถจะวัดได้ทุกคน จะปรากฏก็ต่อเมื่อหมดตำแหน่งว่าใครเป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยได้หากไม่ระมัดระวัง บางเรื่องผิดพลาดแล้วแก้ไขได้แต่บางเรื่องก็แก้ไขไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตคนเอาคืนไม่ได้

 

 

ดังนั้น กกต.จะทำอย่างไรให้หลักสูตรนี้มีส่วนทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม คิดว่ารุ่น 13 ก็ต้องช่วยคิดด้วย เผื่อรุ่น 14 ต่อไป ทั้งนี้ตนยังได้ย้ำเรื่องนี้ระหว่างเป็นประธานสภา ซึ่งทำโครงการบ้านเมืองสุจริต โดยใช้คำว่าประเทศรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต

 

 

นายชวน ยังกล่าวถึงเรื่องของการตรวจสอบผู้มีอิทธิพลว่า ต้องทำทั่วประเทศไม่ใช่แค่ จ.นครปฐม เพราะนักการเมืองที่มาจากระบบรับเหมาที่รวยโดยอาชีพรับเหมาต้องมีการตรวจสอบให้มากขึ้น ประเด็นที่ให้เป็นการบ้านกับ กกต. การเลือกตั้งในปี66 เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ไม่มีทางที่ท่านจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฝ่ายอื่น ทั้งกระทรวงมหาดไทย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube