“ธรรมนัส” มอบนโยบายปฏิบัติงานย้ำ!ขับเคลื่อนนโยบายรบ.ด้านเกษตร

“ธรรมนัส” ควง 2 รมช มอบนโยบายปฏิบัติงาน ย้ำชัด! ต้องขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตร ให้เป็นผลสำเร็จ เกษตรกรต้องกินดีอยู่ดี อยู่กันแบบครอบครัว ต้องทำงานอย่างเข้มแข็ง พร้อมแก้ปัญหา

 

 

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไซยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายประยูรอินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงาน มีคณะผู้บริหารระดับสูงทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม ณ ห้องประชุมธารทิพย์ 01 ชั้น 4 อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทานสามเสน

 

 

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เชื่อว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพวกเราที่มีการประชุมรับมอบนโยบาย ตนรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นวันแรก ที่พวกเราได้พบปะกับคณะทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รู้สึกเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน หลังจากวันนี้พวกเราคือคนในครอบครัวเดียวกัน

 

สืบเนื่องจากรัฐบาลโดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งใช้เวลา 2 วันเต็มๆการแถลงนโยบายของนายเศรษฐา หลายคนที่ไม่เข้าใจถึงการแถลงนโยบายซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแจ้งแก่รัฐสภาว่ารัฐบาลจะทำอะไรบ้างจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างไรในช่วงระยะเวลา 4 ปี

 

จะทำอะไรจะใช้งบประมาณส่วนไหน ซึ่งเป็นกรอบกว้างๆ เราไม่สามารถที่จะเจาะลึกถึงรายละเอียด ซึ่งการเจาะลึกรายละเอียดเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานหรือแต่ละกระทรวงที่จะนำนโยบายของรัฐบาลมามอบเป็นกรอบกว้างๆเช่นเดียวกัน เหมือนกับวันนี้ที่ตนได้มามอบนโยบายให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่นเดียวกัน

 

 

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความสำคัญอย่างมากในการดูแลพี่น้องเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ให้อยู่ดีมีสุข มีรายได้อย่างมั่นคง ภาคเกษตรไทยจะต้องแข็งแกร่ง มีศักยภาพการแข่งขันที่ทัดเทียมหรือดีกว่าสินค้าเกษตรต่างประเทศ โดยมีนโยบายและงานหลักสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประการแรก คือ การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตร ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลง เมื่อวันที่ 11-12 กันยายน 2566 ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จ

 

 

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายและงานสำคัญที่จะเร่งผลักดันดำเนินการในประเด็นต่างๆ ดังนี้ เน้นการสร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ ได้แก่

1) การจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนภาคการเกษตร โดยเป็นศูนย์บริการร่วม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้สามารถติดต่อสอบถาม ขอทราบข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียน คลายทุกข์ให้แก่พี่น้องเกษตรกร ณ ศูนย์บริการร่วมเพียงแห่งเดียว
2) สร้างครอบครัวเกษตร บูรณาการงานเข้มแข็ง เน้นการทำงานของทุกคนทุกหน่วยงาน ต้องทำงานเป็น Team Work ให้มีศักยภาพเพื่อการทำงานระบบทีมมีประสิทธิภาพ มุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จ
3) ขับเคลื่อนภารกิจ ยกระดับ MR. สินค้าเกษตร โดยฟื้นฟู ยกระดับการทำงานของ MR. สินค้าเกษตร์ อีกครั้ง สินค้าเกษตรทุกชนิดต้องมีผู้รับผิดชอบ เน้นทำงานเชิงรุก สร้างกลไกการทำงานร่วมกันในทุกสินค้า แก้ปัญหาถูกจุด ทั้งด้านสินค้าลันตลาด ราคาตกต่ำ การลักลอบนำเข้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง

 

 

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า การรับมือกับภัยธรรมชาติ จะต้องวางแผนมาตรการต่างๆ อย่างชัดเจน รับมือตั้งแต่การป้องกัน การแก้ไข และการฟื้นฟู เมื่อประสบเหตุภัยแล้ง หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติทุกชนิด

 

 

ส่วนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ถือเป็นการประกาศสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน อย่างจริงจัง เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลผลิตในประเทศ เข้มงวดในการตรวจสอบสต็อกในประเทศเพื่อควบคุมในการนำเข้า การกักตุน และเก็งกำไร โดยเฉพาะช่วงก่อนที่ผลผลิตออกสู่ตลาดยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกร ได้แก่

 

 

1) พัฒนาระบบการประกันภัยภาคการเกษตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในนโยบายสำคัญของการพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน บริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอนโดยจะเดินหน้าต่อยอด พัฒนาสร้างระบบประกันภัยให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย

2) อำนวยความสะดวก สนับสนุนให้บริการเครื่องมือทางการเกษตร ที่ให้เกษตรกรสามารถเช่า/ยืม เครื่องมือเครื่องจักรกลด้านการเกษตรที่เหมาะสมต่อการการผลิต

 

 

“ผมมีความภาคภูมิใจ ที่ได้กลับมาทำงาน และรับใช้พี่น้องเกษตรกรอีกครั้ง ซึ่งแนวทางการทำงาน และนโยบายของ

 

 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ผมจะขับเคลื่อนและผลักดันนั้น จะไม่ใช่มีเพียงนโยบายที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีอีกหลายนโยบายและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่จะครอบคลุม เพื่อช่วยเหลือ ช่วยแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกร และพัฒนาภาคเกษตร ซึ่งทุกนโยบายและทุกการทำงานจะเป็นไปอย่างจริงจัง เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน และต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจทำงานอย่างบูรณาการทีมเวิร์ค แบบครอบครัวไปด้วยกัน เพื่อพี่น้องเกษตรกรกินดี อยู่ดี มีรายได้ มีอาชีพที่มั่นคงสินค้าเกษตรมูลค่าสูงทรัพยากรเกษตรยั่งยืน และภาคเกษตรไทยคือผู้นำสินค้าเกษตรในตลาดโลก” ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวกล่าว

 

 

ขณะเดียวกันนายไชยา กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่ร้อยเอกธรรมนัส มอบนโยบายไปในวันนี้ ได้พูดครบถ้วนทุกประการ เชื่อว่าทุกคนจะมีความสบายใจ พวกเราในฐานะที่เป็นฝ่ายการเมืองถึงแม้ว่าจะมาจากต่างพรรคการเมืองก็ตาม แต่จริงๆแล้วพวกเราเคยอยู่พรรคเดียวกันมาก่อน เพียงแต่สถานการณ์การเมือง ต่างคนต่างแยกย้ายไปตามวิธีการต่างๆ แต่เรามีเป้าหมายเดียวกัน อย่างที่ร้อยเอกธรรมนัสได้พูดไปแล้ว

 

 

ตนคิดว่ามีกระทรวงนี้ที่เป็นกระทรวงที่จะได้ทำงานร่วมกันด้วยความสบายใจ เราทำงานแบบบูรณาการ ตนได้รับมอบหมายจากร้อยเอกธรรมนัสว่าเราจะไม่มีช่องว่างในการบริหาร นี่คือมิติใหม่ของการทำงาน เรามีเป้าหมายเดียวกันคือการให้บริการประชาชน เรามาจากฝ่ายการเมืองมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงคือประชาชน ที่เป็นเจ้าของเงินภาษี ส่วนตนเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่เป็นชาวไร่ชาวนาจึงรับรู้ถึงวิถีชีวิตในความลำบาก จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

 

 

ด้านนายอนุชา ได้กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาทำงานที่กระทรวงที่สำคัญที่สุดของประเทศ ตนเชื่อว่านโยบายของร้อยเอกธรรมนัสจะเป็นมิติใหม่ของกระทรวงเกษตร จะทำให้พี่น้องชาวเกษตรกรมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนตัวนั้นในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

 

ตนยินดีและพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายที่ร้อยเอกธรรมนัสมอบให้และจะได้ร่วมงานกับคณะทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องนี้ตนรู้สึกว่านโยบายที่ร้อยเอกธรรมนัสมอบให้เป็นการทำงานแบบครอบครัวเดียวกันที่จะเดินไปด้วยกัน สามารถที่จะสร้างมิติใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับแผ่นดินไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่น้องคนไทยที่เป็นรากฐานของแผ่นดิน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews