fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ แถลงนโยบายพัฒนาปท.3ระยะ-กระตุ้นศก.แจก1หมื่นขอสภาเชื่อมั่น

Featured Image
นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาลพัฒนาประเทศ 3 ระยะ เป้าหมายแรกกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท- พักหนี้เกษตรกร -ลดค่าครองชีพ พร้อมลดขั้นตอนทำวีซ่าเปิดรับ นทท. ด้านระยะยาววางแผนลดจำนวนนายพล-แก้กฎหมาย รธน. ขอสภาฯเชื่อมั่น ยืนยันทุ่มเทสรรพกำลังแก้ปัญหาประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง

 

 

 

การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีนายวันมูฮะมัด นอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. โดยประธานรัฐสภาได้ชี้แจงเวลาในการอภิปรายซึ่งจะใช้เวลาทั้งหมด 30 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย.66 แบ่งเป็น ครม. 5 ชั่วโมง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 5 ชั่วโมง พรรคร่วมรัฐบาล 5 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง

 

 

 

สำหรับคำแถลงนโยบายของ “ครม.เศรษฐา” โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นเอกสาร 43 หน้า โดยแบ่งเป็นคำแถลงนโยบาย 14 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นภาคผนวก ซึ่งสาระสำคัญของนโยบายที่นำเสนอกรอบการทำงานของรัฐบาลแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

 

 

 

โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง และยังถูกซ้ำเติมด้วยโควิด-19 ประกอบกับปัญหาสังคมการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ฝังรากลึก และยังไม่ได้มีการแก้ไขอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเศรษฐกิจไทยขณะนี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลก และประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ก่อปัญหาความยากจนความเหลื่อมล้ำ ขาดความพร้อมที่จะเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยวางกรอบไว้ 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

 

 

โดยระยะสั้น รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นค่าใช้จ่ายด้วยนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากนี้จะเดินหน้านโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งในภาคเกษตร ธุรกิจ ภาคประชาชน ด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไข ช่วยประคองภาระหนี้และต้นทุนทางการเงินสำหรับประชาชน ครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ปรัชญาที่ไม่ขัดต่อวินัยการเงินการคลัง รวมถึงไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม

 

 

 

นอกจากนี้จะเดินหน้านโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งในภาคเกษตร ธุรกิจ ภาคประชาชน ด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไข ช่วยประคองภาระหนี้และต้นทุนทางการเงินสำหรับประชาชน ครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ปรัชญาที่ไม่ขัดต่อวินัยการเงินการคลัง รวมถึงไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม

 

 

นโยบายเร่งด่วนถัดมาคือการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชน ทั้งค่าไฟ ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในระดับที่เหมาะสมขณะเดียวกันจะผลักดันนโยบายที่กระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นกุญแจดอกแรกเป็นกุญแจดอกแรกที่จะสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และสร้างงานให้ประชาชนจำนวนมากพร้อมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวด้วยการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการขอวีซ่า

 

 

และสุดท้ายจะมุ่งแก้ปัญหาความเห็นต่าง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ ส่วนระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลมีแนวทางที่จะสร้างรายได้ ทั้งการเปิดประตูสู่การค้าตลาดใหม่ๆ ทั้งในกลุ่มสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง

 

 

นอกจากนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางสินค้า เพื่อดึงดูดการลงทุน รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งในประเทศทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง และอากาศ พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าที่ถูกกฎหมายตามแนวชายแดนเพื่อสร้างเงินสร้างงาน สร้างรายได้ อีกทั้งจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรทั้งประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญภายในระยะเวลา 4 ปี ช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนโดยการยกเลิกปรับปรุงกฎหมายที่ไม่จำเป็น เช่น ปลดล็อกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสุราพื้นบ้าน

 

 

นายเศรษฐา ยังกล่าวต่อด้วยว่า เราจะบริหารในรูปแบบของการกระจายอำนาจ คือผู้ว่าฯ ceo ในการสร้างประสิทธิภาพการบริหารงานในแต่ละจังหวัดให้ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย โดยรัฐบาลจะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใส ปิดช่องโหว่ในการทุจริต นอกจากนี้จะมีการเลือกตัวแทนของผู้บริหารเป็นตัวแทนการพัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิดเมืองนอน รัฐบาลนี้จะมีนโยบายสนับสนุนการสร้างซอฟพาวเวอร์ ส่งเสริมหนึ่งครอบครัวหนึ่งทักษะซอฟพาวเวอร์

 

 

 

ส่วนเรื่องของการศึกษารัฐบาลจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษาให้เป็นสังคมแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องกระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของครูทั่วประเทศ

 

 

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะร่วมพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศโดยจะเปลี่ยนรูปแบบการเกณท์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ปรับปรุงการฝึกรด.ให้เป็นแบบสร้างสรรค์ ลดกำลังนายพลทหารชั้นสัญญาบัตรระดับสูง และกำหนดอัตรากำลังในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจในปัจจุบัน ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม และสุดท้ายเราจะนำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะเพื่อการเกษตร

 

 

 

ขณะที่ด้านความปลอดภัย รัฐบาลจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ปราบปรามผู้มีอิทธิพลยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยโดยยึดหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และหลังจากการบำบัดพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้าต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม เราจะใช้มาตรการจริงจังยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด นอกจากนี้รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ

 

 

 

ส่วนเรื่องของระบบสาธารณสุขเราจะรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เราจะยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยบริการพื้นฐานใกล้บ้าน ประชาชนไม่ต้องลำบากเดินทางไกล อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วย “สวัสดิการโดยรัฐ”

 

 

 

นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า หากมองอนาคต 4 ปีข้างหน้าจะเป็น 4 ปีที่รัฐบาลวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ โดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถืออยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ขณะที่การบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายรัฐบาลการรักษากรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

และให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ โดยพิจารณาใช้จ่ายจากเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ทั้งในส่วนของเงินกู้และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ รวมถึงพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อลดภาระการลงทุนจากงบประมาณแผ่นดินและการกู้เงิน โดยรัฐบาลจะหาเงินจากการจัดเก็บภาษี ควบคู่ไปกับการเร่งส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว

 

 

 

“รัฐบาลขอให้ความเชื่อมั่นกับรัฐสภาและประชาชนไทย ว่า รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และประเทศเป็นที่ตั้ง รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเทสรรพกำลังในการที่จะดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน และการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อมเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของผมและรัฐบาลในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเรานับจากนี้เป็นต้นไป”

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube