มวลชนชาวไร่อ้อย ยื่นหนังสือร้องเพื่อไทย พิจารณาให้เงินช่วยเหลือสานต่อรัฐบาลเดิม พร้อมให้กำลังนายกฯ คนที่30 “ชลน่าน” บอก “เศรษฐา” เป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวกล้าหาญในการบริหาร
กลุ่มมวชนสี่องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วยสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศ , ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน, สมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และ สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย พามวลชนเกษตรกรไร่อ้อยประมาณ 1,000 คน เข้ายื่นหนังสื่อและแสดงความยินดีแก่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และเป็นกำลังใจให้กับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล
โดยเลขาธิการชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนชาวไร่อ้อย ที่มาวันนี้เพื่อแสดงความดีใจกลับคณะรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้จัดตั้ง ซึ่งได้รับความมั่นใจจากชาวไร่อ้อยในเรื่องการดูแลอย่างดีแน่นอน มาในวันนี้ไม่ได้มาเพราะเรื่องอื่น แต่มาเพราะเรื่องปากท้อง เกี่ยวกับเรื่องเงินช่วยเหลือ ขอให้เป็นตันละ 120 บาท ซึ่งในรัฐบาลที่ผ่านมาได้มีนโยบายลดฝุ่นPM2.5 และสัญญาว่าจะช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อย 3 ปี โดยได้รับแล้วมา2 ปี แต่ปี66 ยังไม่ได้รับจึงอยากฝากว่าที่รัฐบาลพิจารณาให้กับชาวไร่อ้อยด้วย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงานในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ในอัตรา ตันละ120 บาท โดยเร่งด่วนต่อไป
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค กล่าวว่า เมื่อเช้าทราบว่าส่วนหนึ่งได้พบกับ นายกรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ตนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนมารับหนังสื่อในวันนี้ แวะมารับความขอบคุณจากพี่น้องชาวไร่อ้อย รวมถึงสิ่งที่เป็นประเด็นปัญหา ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและตัวท่านนายกให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ปากท้อง การประกอบอาชีพ
โดยในสิ่งที่ได้เสนอมานั้น ก็จะรับเข้าไปสู่การพิจารณา โดยมั่นใจว่าในสิ่งที่ท่านเรียกร้อง 120 บาทต่อตัน รัฐบาลเพื่อไทยแม้ว่าจะเป็นรัฐบาลผสม มีรัฐมนตรีมาจากรายพรรคการเมือง แต่ขอให้ท่านได้มั่นใจว่า ความเป็นผู้นำความเป็นนายกรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งท่านมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ในการเป็นผู้นำบริหารงาน อันไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน นั่นคือกิจอันเป็นที่หนึ่ง ตนมั่นใจว่าในสิ่งที่เกษตรกรเรียกร้องมาไม่น่าจะเป็นปัญหาใด
เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อ อันไหนที่เป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาลที่แล้ว เรามั่นใจว่าสิ่งนั้นเราจะทำให้เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ขอเรียนตามตรงว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ยากลำบากที่สุด ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างนี้ ทั้งมิติเชิงสังคมและการเมือง ที่มีความเห็นต่างกันอย่างหลากหลาย แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายอีกฝ่ายหนึ่งขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ยอม อีกฝ่ายหนึ่งขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ให้ จึงเป็นประเด็นทำให้พรรคที่เขาได้ลำดับที่ 1 ที่เขาได้รับมอบจากประชาชนมา ไม่สามารถที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ ความเป็นฝากเป็นฝ่ายอย่างนี้ ทำให้พรรคเพื่อไทยตกเป็นพรรคอันดับที่ 2
ซึ่งเป็นพรรคที่เป็นกลาง ต้องเลือกทางออกที่ดีที่สุดให้สำหรับประเทศ ถ้าจะให้สองฝ่ายชักกะเย่อกันอยู่อย่างนี้ประเทศก็ไปไม่รอด ประชาชนก็จะขาดโอกาสต่อไป ฉะนั้นทางออกที่พรรคเพื่อไทยเลือกขณะนี้ แม้หลายคนอาจจะไม่ชอบใจ แต่เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจแล้วว่าน่าจะเป็นหนทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติโดยรวม และวิกฤตครั้งนี้มันจะเป็นโอกาสให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน เดิมที่มีการแบ่งอำนาจกันอย่างชัดเจน เป็นเหลืองเป็นแดงหรืออะไรต่างๆ ก็จะถือวิกฤตนั้นมาเป็นประโยชน์ เอาประเทศชาติและประชาชนให้รอดก่อน
ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจจะมาทำตรงนี้ ก็ต้องขออภัยประชาชนบางคนที่มีความขัดเคืองไม่สบายใจ ยืนยันสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพักร่วมสบายช่วยกันคิดขณะนี้ เราจะเป็นเครื่องมือของประชาชนในการนำพาประเทศ เพื่อลดข้อขัดแย้งซึ่งเราถือว่าเป็นปัญหาหนักมาเกือบ 2 ทศวรรษ พร้อมยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดไม่ว่ารัฐบาลนี้จะมีรัฐมนตรีมาจากพรรคไหน หากทำหน้าที่สอบไปทางทุจริต ท่านนายกบอกว่าจะปลดทันทีไม่ว่ามาจากพรรคไหน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
