“เดชอิศม์” หอบ 20 สส. ประชาธิปัตย์ โหวตสวนมติพรรค แถลงจุดยืนวางความเกลียดชัง หวังประเทศเดินหน้า ยันขอเป็นฝ่ายค้าน ไม่กระเหี้ยนกระหือรือเป็นรัฐบาล รับพรรคยังไม่แตกแต่ขาดเอกภาพ
ที่อาคารรัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 16 สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่โหวตสวนมติของพรรค เห็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวแสดงจุดยืน และชี้แจงเหตุผล
ว่า พรรคประชาธิปัตย์เริ่มที่จะไม่มีเอกภาพ ตั้งแต่การเลื่อนประชุมเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ 2 รอบ มีเจตนาจะให้องค์ประชุมล่มทั้ง 2 ครั้ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรค ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประชุมครั้งละ 3-4 ล้านบาทต่อครั้ง
ทั้งนี้ในการประชุม สส.พรรค เพื่อหารือแนวทางโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค. ที่ประชุมพรรคมีความเห็นแตกต่างกัน ฝ่ายที่เสนอให้โหวตไม่เห็นชอบ อ้างเรื่องความโกรธแค้นตั้งแต่ในอดีต แต่ก็มีผู้โต้แย้งว่า ครั้งนี้เป็น สส. ใหม่เกือบทั้งหมด อยากให้แยกเรื่องราวปัจจุบันออกจากอดีตให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความอคติตลอดไป ทำให้ผู้ใหญ่ของพรรคบางคนได้เดินออกจากห้องประชุมไป
ขณะที่อีกฝ่ายเสนอให้โหวตเห็นชอบ เพราะมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนมีทุกหย่อมหญ้า จะมีสูญญากาศทางการเมืองต่อไปไม่ได้ ขณะที่อีกหลายคนเห็นว่าควรงดออกเสียง จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวขึ้นมาในที่ประชุมว่า อย่าโหวตกันเลย ความจริงแล้วเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.การประชุมวันนั้นจึงไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นมติพรรคหรือไม่
และเมื่อได้ฟังการอภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโหวตนายกฯ แล้ว เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ อีกทั้ง 3 เสาหลักของประชาธิปัตย์ ก็ออกเสียงไม่เหมือนกัน คือ นายจุรินทร์ งดออกเสียง แต่ นายชวน หลีกภัย และ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.แบบบัญชีรายชื่อ ออกเสียงไม่เห็นชอบ แล้วนี่ถือเป็นมติพรรคหรือไม่
นายเดชอิศม์ ระบุว่า สส. ในกลุ่มของเราเอาชาติและประชาชนมาก่อนพรรคการเมือง และพรรคเพื่อไทยรวมเสียงข้างมากได้ เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ สส.เราเป็นประชาธิปัตย์ใหม่เกือบทั้งหมดเราไม่เคยสร้างความขัดแย้ง เราไม่ควรจะมารับมรดกของความขัดแย้งจากอดีต
“ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ เราควรสนับสนุนให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนพวกเราเป็นฝ่ายค้าน แต่เปิดโอกาสให้เขาได้ทำหน้าที่ จึงเป็นเหตุผลในการโหวตเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน” นายเดชอิสม์กล่าว
นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า ณ วันนี้เราเป็นฝ่ายค้านเต็มรูปแบบ ด้วยศักดิ์ศรี เราไม่กระเสือกกระสน กระเหี้ยนกระหือรือ จะเป็นรัฐบาล เพราะหลักการของพรรคคือ เขาต้องเทียบเชิญเราก่อน และลำพังเราทุกคนตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ และ สส.พรรค เพื่อลงมติ และปฏิบัติตามมตินั้น
ส่วนกรณีเดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงนั้น พรรคจะมีบทลงโทษหรือไม่ โดยระบุว่า เราคบหากับทุกพรรคการเมือง เรามีเพื่อนอยู่ทุกพรรคการเมือง เราแยกหน้าที่ออกจากความรู้สึก ถ้าเอาความเคียดแค้นเกลียดชังในอดีตไปยึดโยงกับหน้าที่ สส. ก็เป็นอคติ
“ถ้าการพบทุกพรรคเป็นความผิด ผมก็น่าจะโดนประหารชีวิตไปตั้งนานแล้ว เพราะผมสนิทกับทุกพรรคการเมือง” นายเดชอิศม์ กล่าว
ส่วนการสวนมติอาจส่งผลให้มีโทษร้ายแรง ถึงขั้นขับออกจากพรรคหรือไม่ นายเดชอิสม์ กล่าวว่า การขับออกจากพรรค ต้องใช้ สส.ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและเป็นมติเสียง 3 ใน 4 ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ก็อยู่ทางนี้หมดแล้วไม่รู้ใครจะขับใครกันแน่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ทั้งนี้เราไม่คิดจะขับใครออกจากพรรคพร้อมที่จะพูดคุยเจรจา ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเจรจากับเราเลย
ส่วนต้องมีตัวกลางในการพูดคุยกันในพรรคเพื่อให้ทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ นายเดชอิสม์ กล่าวว่า เราทำงานด้วยกันต่อไปได้ เรามาจากการเลือกตั้งของประชาชน พวกเราพร้อมจะออกจาก สส.พรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็ยังได้ถ้าเรารู้สึกว่าเราทรยศประชาชน ไม่ว่าคนใต้หรือคนทั้งประเทศ เราไม่คิดทรยศ เราซื่อสัตย์ทำงานเพื่อประชาชน
ขณะที่การทำงานร่วมกันให้ได้นั้น นายเดชอิศม์ มองว่า ต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ให้ได้ เมื่อถามว่าตอนนี้กล่าวได้หรือยังว่าพรรคประชาธิปัตย์แตก นายเดชอิศม์ ตอบว่า “ยังไม่ถึงกับแตก อาจจะมีความเห็น
ที่ไม่กลมกลืนกัน ยังมีเวลา แต่ต้องลดทิฐิ ต้องมารับฟัง เพราะทุกคนมาจากประชาชนทั้งนั้น กว่าจะฝ่าฟันมาได้ยากมาก”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
