“รังสิมันต์” ยันเดินหน้าเสนอญัตติทบททวนมติห้ามชงชื่อ”พิธา”ซ้ำ แม้โหวตไม่ชนะ พร้อมย้ำจุดยืนก้าวไกล ไม่ลงคะแนนให้แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ยังคงยืนยันเช่นเดิมให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาญัตติที่เสนอด้วยวาจา ขอให้ทบทวนมติที่ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลซ้ำ และ ยืนยันว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยัง ไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาสาระ เพราะมีผลทางเทคนิค ดังนั้น สภายังสามารถทบทวนได้
ซึ่งในวันนี้ก็จะเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อยืนยันและกำหนดเวลาในการพิจารณา ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลายืดยาว เพื่อให้โอกาสสภาพิจารณา เรื่องนี้ เมื่อกระทำพลาดไป ซึ่งคงไม่ต้องลงในรายละเอียดว่าพลาดอะไรไปบ้าง พร้อมย้ำว่า จะเสนอจะญัตตินี้ต่อไป
ส่วนทิศทางโหวต ก็คงหวังให้ชนะแต่สุดท้ายคงไม่ใช่เราเป็นผู้ตัดสิน แต่ขอพูดตรงไปตรงมา หากเราทำลายหลักการเกินไป สุดท้ายจะกลายเป็นบรรทัดฐานและกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะการที่จะใช้กลไกของสภาในการเสนอชื่อบุคคลไม่ใช่มีแค่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่มีอีกหลายตำแหน่ง ดังนั้นต้องระวังให้ดีในการที่จะนำเรื่องนี้มาเป็นบรรทัดฐาน
ทั้งนี้ สิ่งที่พรรคก้าวไกลพยายามเสนอ ถ้าคุณไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกล หรือนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เลยขั้นตอนนี้ไปแล้ว ทำไมจะต้องทำลายหลักการการเลือกนายกรัฐมนตรีตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว คงไม่มีการเสนอชื่อซ้ำอีกรอบ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ และต้องยอมรับว่า ในสมัยประชุมนี้เสนอไม่ได้แล้ว ส่วนในอนาคตข้างหน้าค่อยไปว่ากัน
สำหรับพรรคก้าวไกลพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านชัดเจนหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีรัฐบาลก่อน แต่ยืนยันว่า จุดยืมของพรรคก้าวไกลยังคงเดิม ที่จะไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพราะได้ยืนยันในหลายๆ ครั้งว่า “มีลุงไม่มีเรา” อย่างที่เคยให้ข่าวไว้กับพี่น้องประชาชน
ขณะตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน และไม่แน่ใจว่า จะต้องพูดคุยเรื่องตำแหน่งรองประธานด้วย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรในที่สุดต้องมีรัฐบาลก่อน และการที่ต้องตัดสินใจในเวลานี้ อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็น สส. และสัมผัสกับประชาชน ก็รู้สึกผิดหวังในเรื่องนี้ ว่า ประเทศของเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เท่ากับเราต้องอยู่แบบเดิม และพรรคการเมืองที่น่าจะเป็นพันธมิตรกับเรา ก็นำมาซึ่งความผิดหวัง แต่ไม่เป็นไรก็ต้องเดินต่อ
แล้วทำหน้าที่อย่างดีที่สุดอย่างตรงไปตรงมา ส่วนในอนาคตจะทำงานกับเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องกระบวนการในสภาและเราก็ต้องหาเสียงจากทุกฝ่ายในการผลักดันกฎหมาย และจะทวงสัญญาจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่บทบาทของพรรค ถือเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยและประชาชนที่สนับสนุนและในส่วนของพรรคก้าวไกลก็ทำหน้าที่ตามบทบาท ถ้าต้องเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม หาก สว.ไม่โหวตให้นายเศรษฐา ทวีศิลป์ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย อาจจะได้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนหวังว่าคงไม่ไปถึงจุดนั้น สิ่งที่ เราคิด หากเป็นรัฐบาลลุง ก็เป็นเรื่องยากที่เราจะรับไหว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
