fbpx
Home
|
ข่าว

“สมชัย” ชี้แก้ ม.272 ต้องมี ส.ว.84 คนเห็นชอบจะหาได้ไหม

Featured Image
“สมชัย” FB แก้ ม.272 สำคัญคือวาระ1 และ 3 ต้องมี ส.ว.84 คน จะหาได้ไหม หรือต้องการแค่จับ ส.ว.มาแก้ผ้า ให้เห็นธาตุแท้ โดยไม่สนใจผลแพ้ชนะ

 

 

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โพสต์ข้อความลง Facebook ส่วนตัวเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า จะแก้ ม.272 มี 3 ด่าน

 

 

ด่านที่ 1 ในการพิจารณาวาระที่ 1 แม้จะใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา แต่ต้องมี ส.ว.ร่วมเห็นชอบด้วยอย่างน้อย 84 คน

ด่านที่ 2 ในการพิจารณาวาระที่ 3 ต้องมี ส.ส. จากพรรคการเมือง ที่ไม่มีสมาชิก เป็น ครม. ประธานหรือ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเห็นชอบ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 (สมมติว่า ตัด ประชาชาติ ก้าวไกล เพื่อไทย รวม 301 คน) ร้อยละ 20 ของที่เหลือ คือ 40 คน

ด่านที่ 3 ส.ส. 50 คน หรือ ส.ว. 25 คน หรือ ส.ส. บวก ส.ว. 75 คน ยังสามารถเข้าชื่อกันขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าสิ่งที่แก้และผ่านรัฐสภาแล้ว ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ได้ด้วย

 

 

ทั้งนี้ รวมกระบวนการทั้งหมด อย่างสั้น 6-8 สัปดาห์ อย่างยาว 4 เดือน แต่ก็มีคนมาถามแบบงง ๆ ว่า การแก้ ม. 272 ในวาระที่สาม ที่มีเงื่อนไขระบุว่า ต้องมีสมาชิกฝ่ายค้าน เห็นชอบด้วย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ตอนนี้ ยังไม่มีรัฐบาลและไม่มีฝ่ายค้านแล้วจะคิดกันอย่างไร

 

 

หากอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (6) โดยละเอียด จะไม่ได้ระบุว่าฝ่ายค้าน แต่ระบุถึง สมาชิกพรรคการเมืองที่ไม่มีสมาชิกเป็น ครม. ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

 

ดังนั้น อาจตีความแบบให้ทำได้คือ
1. พรรคที่มีสมาชิกพรรคเป็น ครม. ได้แก่ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา
2. พรรคที่มีสมาชิกพรรค เป็น ประธาน รองประธานสภา ได้แก่ ประชาชาติ ก้าวไกล เพื่อไทย
3. ดังนั้น พรรคที่เหลือคือพรรคเล็ก ๆ รวมกันประมาณ 17 เสียง ร้อยละ 20 คือ ประมาณ 4 คน

 

 

แต่ที่สำคัญ คือ วาระที่ 1 และ 3 ที่ต้องการ ส.ว. 84 คน จะหาได้ไหม หรือต้องการแค่จับ ส.ว.มาแก้ผ้า ให้เห็นธาตุแท้ โดยไม่สนใจผลแพ้ชนะ

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube