“กัณวีร์ “ห่วงเด็ก 126 คน หลุดจากระบบการศึกษา อาจถูกผลักดันกลับไปพื้นที่สงคราม ถามกลับ ถ้าไม่หมดหนทางพ่อแม่คงไม่ให้ลูกแค่ 7 ขวบ จากบ้านมาเพื่อเรียนหนังสือ
นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ได้เข้าเยี่ยมเด็ก 35 คน จาก 126 คน ณ บ้านพักฉุกเฉินแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย จากกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ฐานนำเด็กต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อรับการศึกษา และเป็นเหตุที่ว่าผู้อำนวยการโรงเรียนพยายาม ขอทะเบียนนักเรียนที่ไม่มีสัญชาติ (G code) แต่เมื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อ่างทองตรวจสอบเพราะเห็นจำนวนที่มากผิดปกติ ทำให้พบว่ามีการนำเด็กจากเมียนมาเข้ามาเรียนจำนวนมาก และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวและเตรียมผลักดันเด็กกลุ่มนี้กลับประเทศต้นทางทำให้ต้องออกจากการศึกษากลางคัน
นายกัณวีร์ เห็นว่า ปัญหานี้หากคิดตามกฏหมายคนเข้าเมืองก็คิดง่าย และสองหากคิดว่านี่คือ การลักลอบนำพา ก็ต้องใช้ พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ด้วย คือ ก็ต้องดำเนินคดีไปกับใครก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องในขบวนการนำพาหรือลักลอบต่างๆ ตามที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีและว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ “เด็ก” เป็นเหยื่อ มิใช่อยู่ในขบวนการใดๆ อันที่สาม MOU 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หากพบเด็กกระทำผิด กม.คนเข้าเมือง ไม่ต้องดำเนินคดีใดๆสามารถส่งกลับได้เลยตามกระบวนการที่วางไว้”
นายกัณวีร์ ระบุว่าถ้าดูตามกฎหมายที่มีอยู่ด้านตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงกระบวนการต่างๆ ก็น่าจะส่งกลับได้ แต่ยังมี พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ที่ครอบคลุม “เด็กทุกคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี” เด็ก คือ เด็ก ไม่แยกแยะสัญชาติ และใน พรบ.นี้ โดยเฉพาะในหมวดและมาตราที่การคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก ดังนั้น ส่วนราชการต้องสังเคราะห์สถานการณ์เรื่องผลประโยชน์สูงสุดของเด็กให้ดีว่าเด็กมีความประสงค์ในการศึกษาเล่าเรียน ไม่ได้แสวงหาประโยชน์ด้านอื่น อีกทั้งนโยบายการศึกษาแห่งชาติ เรื่อง “Education for All” การศึกษาสำหรับทุกคน โดยไม่แยกแยะชาติพันธุ์ และสัญชาติ”
นายกัณวีร์ ย้ำว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้ความคุ้มครองเด็กและนโยบายการศึกษาแห่งชาติ เด็ก 126 คนนี้ต้องได้รับความคุ้มครองโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กและเป็นไปตามนโยบายการศึกษาสำหรับทุกคน ตอนนี้เหมือนเรามีกฎหมายหลายฉบับ และเรามองไปรอบๆ แล้วหยิบยกกฎหมายและระเบียบปฏิบัติบางอย่างมาปรับใช้ เพื่อให้เป็นการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และจบง่ายที่สุด แต่การแก้ไขปัญหานี้มันส่งผลกระทบระยะยาว โดยเฉพาะต่อเด็กมากกว่า 126 คนที่ต้องใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต
นายกัณวีร์ ย้ำว่า ปัจจุบัน เด็ก ทั้ง 126 คน ได้ออกจากระบบการศึกษาสามัญเรียบร้อย และกำลังจะถูกดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ที่แก้ไขง่ายที่สุด คือ ส่งกลับประเทศต้นกำเนิดเมื่อติดต่อผู้ปกครอง และได้รับการตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ปกครองที่แท้จริง นอกจากนี้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่แยกให้ออก ระหว่างขบวนการลักลอบนำพา(หากมีจริง) กับเหยื่อผู้ถูกกระทำ อะไรคือผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก การศึกษาสำหรับทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
