fbpx
Home
|
ข่าว

“ชัยธวัช” ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ สว.ต้องการหมายถึงอะไร

Featured Image
“ชัยธวัช”ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ สว.ต้องการหมายถึงอะไร แต่มั่นใจวิจารณญาณ ย้ำแคนดิเดตนายกฯมีแค่”พิธา” อย่าด่วนสรุปต้องโหวตกี่ครั้ง

 

 

 

 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สว. จะไม่โหวตสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จากประเด็นมาตรา 112 ว่า เป็นแค่ความเห็นของ สว.บางคน แต่ สว.ส่วนใหญ่ยังไม่แสดงออกเกี่ยวกับมาตรา 112 คิดว่า จะแสดงออกกันในวันโหวตเลือกนายกฯ ขออย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากสิ่งที่เห็น เพราะสิ่งที่เป็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ อีกครั้งยังมั่นใจว่า การที่ไปเจรจากับสว. จะทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณญาณของ สว. ส่วนใหญ่ อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกว่าต้องการคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย ซึ่งตนยังเชื่อมั่นใน สว.จำนวนมากที่จะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย

 

 

ส่วนความมั่นใจว่า จะได้เสียง สว. อีก 60 เสียงทั้งหมด หรือได้เสียง ส.ส. มาด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน เพราะเราไม่ได้ชวนมาจัดตั้งรัฐบาล แต่จะมี ส.ส.หลายคนใช้จุดยืนของตัวเอง ใช้สถานะผู้แทนของตัวเองปกป้องระบบไว้ให้ได้ ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านที่สำคัญ

 

 

ทั้งนี้ จะมีการถอยบางเรื่องหรือไม่ เพื่อให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเน้นเรื่องการพูดคุยและทำความเข้าใจ เพราะส่วนใหญ่ สว.จะรับรู้ข้อมูลจากสื่อมวลชนแบบสั้นๆ ซึ่งอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่า สรุปจะไม่ลดเพดานเรื่องที่ สว. ต้องการใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ สว.ต้องการหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาพยายามอธิบายตลอดเวลาว่า เจตนารมย์ของก้าวไกลเป็นอย่างไร มองเห็นปัญหาอย่างไร ซึ่งการทำของเราแบบนี้ดีต่อแนวทางประชาธิปไตย และดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า

 

 

และจะยังยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ แม้จะมีการทักท้วงจาก ส.ว. นายชัยธวัช ยังมั่นใจว่า ถ้าได้อธิบายเหตุผล ส.ว. ก็จะมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ ซึ่งในสัปดาห์หน้านายพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกล จะไปพูดคุยกับสังคมและประชาชน ซึ่งจะได้สะท้อนผ่านไปยัง ส.ว.ด้วย แต่วันนี้จะมีการหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อว่า ก่อนโหวตควรจะมีเวลาและกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายหรือซักถามอย่างเต็มที่ เพื่อให้โอกาสแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนที่ถูกเสนอรายชื่อขึ้นมา ได้ตอบคำถาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงมติ

 

 

นอกจากนี้ ที่มีการวิเคราะห์กันว่าการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรก นายพิธาอาจจะไม่ผ่านนั้น นายชัยธวัช ย้ำว่า สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ซึ่งหากวันที่ 13 ก.ค. ยังไม่ผ่านการคัดเลือกก็อาจต้องเสนอชื่อซ้ำในวันที่ 19 ก.ค. โดยจะไม่มีการเสนอครั้งเดียวแน่นอน แต่ก็ยังเชื่อว่า น่าจะจบในครั้งเดียว อีกทั้งไม่กังวลหากจะมีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นขึ้นมาแข่ง เพราะถือเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา ที่ฝั่งเสียงข้างน้อยจะเสนอขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่า ส.ว.จะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมขออย่าพึ่งสรุปว่าต้องโหวตกี่ครั้งถึงจะได้นายกฯ โดยขอให้ดูจากสถานการณ์ที่เป็นจริง เพราะมีหลายปัจจัย และอย่าพึ่งตัดว่าจะจบในครั้งเดียว

 

 

 

ขณะพรรคก้าวไกลจะยอมให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช ยืนยันว่า แคนดิเดตนายกฯ ยังมีคนเดียว อย่าพูดไปถึงตอนนั้น ขณะเดียวกัน ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เสียง สว.มาโหวตอีกหรือไม่ เพราะ สว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาพูดความเห็นของตัวเอง มีเพียงส่วนน้อยที่ออกมาให้ความเห็น แต่ก็เชื่อมั่นว่าเสียง สว. ที่ยังเงียบอยู่ จะเป็นเสียงที่เปิดโอกาสคืนความปกติให้กับระบบการเมืองไทยให้เดินหน้าไปด้วยกัน

 

 

ส.ว.สายทหาร จะไม่มีการโหวตให้นายพิธานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพทหาร เพราะทหารจำนวนมาก มีความหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งตนได้มีโอกาสไปพูดคุยและอธิบายเหตุผลให้ได้รับฟัง ซึ่งทำทุกวัน ทั้งทหาร พลเรือน ตำรวจ และข้าราชการ ทำเต็มที่ที่สุดจนถึงวันสุดท้าย โดยยืนยันว่า ยังมีแสงสว่างในเรื่องนี้ ชีวิตต้องมีความหวัง ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะออกมากดดันในการโหวตเลือกนายกฯ เป็นห่วงหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่ามาสนับสนุนพรรคก้าวไกล จากที่ตนเห็นแคมเปญ respect my vote

 

 

 

คงเป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียง ว่าให้เคารพผลเลือกตั้งและคะแนนเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ คือต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ปกป้องตัวบุคคลใดหรือพรรคการเมืองใด และไม่ทราบว่าจะมีกลุ่มใดออกมาทำอะไรบ้าง แต่การออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองก็ไม่อยากให้มีความรุนแรง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ก็น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะประธานสภาได้ให้นโยบายไว้พอสมควร

 

 

หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ ถึง 2 ครั้ง อาจมีการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ซึ่งน่ากลัวกว่าการลงถนนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนตอบแทนประชาชนทั้งหมดไม่ได้ และอย่าเพิ่งไปคิด แต่อยากให้มองว่าอาจได้เฉลิมฉลองกันในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. 66 พร้อมยอมรับว่า หากมีการโหวตเลือกนายกฯ เนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลและ ครม. ที่ล่าช้า

 

 

เพราะจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม และการพิจารณางบประมาณ ปี 67 รวมถึงนโยบายเร่งด่วน อาทิ ภัยแล้ง เศรษฐกิจที่นักลงทุนชะลอการลงทุน เพราะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย ซึ่งจะกระทบไปหมด ดังนั้น ถ้าเรื่องจบเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี และเป็นการจบแบบเคารพผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube