ปลัด พม.ยันไทยแก้ปัญหาค้ามนุษย์ต่อเนื่อง สหรัฐฯคงเทียร์2 สะท้อนต้องเพิ่มเข้มข้นเดนหน้าขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2566 หรือ Trafficking In Person (TIP) Report 2023 ซึ่งสหรัฐอเมริกายังคงสถานะการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยให้อยู่ในเทียร์ 2 (Tier 2)
ที่ผ่านมา มีการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศทั้งด้านนโยบาย การป้องกัน การดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่งผลให้การแก้ปัญหาเห็นผลในเชิงประจักษ์มากขึ้น ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับของสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ เป็นเสียงสะท้อนหนึ่งที่ต้องเพิ่มความเข้มแข็งในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายของรัฐบาลไทยคือการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกามี 12 ข้อเสนอแนะสำคัญ ดังนี้
1. การสืบสวนเชิงรุกและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวกในการค้ามนุษย์ และแสวงหาบทลงโทษที่เหมาะสมสำหรับผู้ค้ามนุษย์ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด รวมถึงการกำหนดอัตราโทษจำคุก
2. เพิ่มความพยายามในการระบุและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ถูกแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงานจากกระบวนการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย ยุติการส่งผู้เสียหายเข้าห้องกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เสียหายจะไม่ถูกลงโทษอย่างไม่เหมาะสม
3. ขับเคลื่อนกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ระยะเวลาฟื้นฟูและไตร่ตรอง และเปิดใช้ศูนย์คัดแยกผู้เสียหายเต็มรูปแบบ
4. ใช้วิธีการที่เน้นผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ รวมถึงในระหว่างการสัมภาษณ์ของทีมสหวิชาชีพ และการตรวจแรงงาน
5. เพิ่มการปฏิบัติและความพร้อมของล่ามเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย รวมถึงในที่พักพิงและกระบวนการพิจารณาคดีในศาล
6. เพิ่มการจัดทำวีซ่าเพื่อให้ผู้เสียหายสามารถอยู่และทำงานในประเทศไทยได้หลังจากเสร็จสิ้นการดำเนินคดีกับผู้ค้ามนุษย์
7. ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และรับรองการดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติตามมาตรา 6/1 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และดำเนินการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
8. เพิ่มความสามารถของผู้เสียหาย โดยเฉพาะผู้ใหญ่ ในการเข้าและออกจากสถานคุ้มครองอย่างอิสระ รวมถึงการใช้อุปกรณ์สื่อสาร และทบทวนการจัดให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าออกและอยู่ในสถานคุ้มครองเป็นระยะ ไม่ให้ผู้เสียหายอยู่ในที่สถานคุ้มครองนานเกินความจำเป็น
9. กำหนดให้สถานคุ้มครองของรัฐและนอกภาครัฐดูแลผู้เสียหาย โดยคำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจและให้การดูแลผู้เสียหายเป็นรายบุคคล เช่น การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและการเยียวยาสภาพจิตใจ รวมทั้งดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกันในสถานคุ้มครองทุกแห่ง
10. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการสืบสวนการละเมิดแรงงานและข้อร้องเรียนของแรงงานต่างด้าว ที่มีข้อบ่งชี้การบังคับใช้แรงงานเพื่อระบุอาชญากรรมการค้ามนุษย์ รวมทั้งบังคับใช้ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่แรงงานในการส่งต่อกรณีที่อาจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้านแรงงานไปยังทีมสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมาย
11. เพิ่มความตระหนักแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับตัวชี้วัดการค้ามนุษย์ เช่น การบังคับให้ใช้หนี้ การทำงานล่วงเวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การยึดเอกสารสัญญา และการค้างจ่ายค่าจ้าง
12. ตรวจคัดกรองคนงานชาวเกาหลีเหนือเพื่อหาสัญญาณของการค้ามนุษย์ และส่งต่อพวกเขาไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบตามพันธกรณีภายใต้มติที่ 2397 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews