fbpx
Home
|
ข่าว

“กัณวีร์” ชี้ประชุมลับผลกระทบเมียนมาขัดมารยาทการทูต

Featured Image
“กัณวีร์”ชี้ประชุมลับผลกระทบเมียนมาขัดมารยาทการทูต อาจเกิดข้อผูกมัดต่อรัฐบาลใหม่ มอง 4 ประเทศอาเซียนไม่เข้าร่วม อาจเห็นต่างควรพูดคุยทุกฝ่าย เตรียมเสนอเรื่องพูดคุยพรรคร่วมแก้ปัญหาพรุ่งนี้

 

 

 

นายกัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นเรื่องการประชุมลับของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขัดแย้งในประเทศเมียนมา ระบุว่า ตามที่ได้พูดไปว่ามารยาททางการทูต และการเมือง แม้จะเป็นรักษาการก็ไม่ควรเรียกประชุม แม้ทางรัฐมนตรีรักษาการ จะระบุว่าเป็นการประชุมที่ทำประจำ และเคยประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ เพราะการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการก็อาจเกิดการมุ่งมั่นในการทำอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ และจะกลายเป็นข้อผูกมัด ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาในการบริหารประเทศยังไม่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหา ในการพูดคุยเพื่อการรักษาสันติภาพในเมียนมา อาจทำให้เกิดข้อขัดแย้งมากกว่าข้อดี

 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงการประชุมในครั้งนี้จะส่งต่อพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงานต่อหรือไม่ นายกัณวีร์ ระบุว่า มีผลกระทบอยู่แล้ว แต่เราเห็นข้อดีในแง่ร้าย คือในประเทศอินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซียก็ไม่เข้าร่วม แสดงให้ความชัดเจนว่าแนวทางของอาเซียนมีการเห็นต่างการประชุมครั้งนี้ หากรออีก 4 สัปดาห์จะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา และจะเป็นแนวทางที่ดีที่

 

 

“สันติภาพในเมียนมาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องพูดคุยกัน ทำความเข้าใจให้หมดทุกประเทศในอาเซียน แต่ตอนนี้เมียนมาเป็นประเทศที่มาจากผู้สถาปนาอำนาจตัวเองจากปลายกระบอกปืน มาเป็นตัวแทนของประเทศเมียนมาก็แปลก ๆ ยังมีอีกหลายกลุ่มอย่างกองกำลังชาติพันธุ์ที่ถืออาวุธอยู่ ก็เห็นต่างในส่วนนี้ จึงต้องพูดคุยกันในทุกส่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน”

 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะมีการนำเสนอต่อพรรคร่วมในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายกัณวีร์ ระบุว่า พรุ่งนี้มีการประชุมของคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ตนเองในฐานะตัวแทนพรรคเป็นธรรมจะเสนอเรื่องนี้เอง โดยทางพรรคก้าวไกลได้กำหนดไว้ว่าการตั้งคณะกรรมการต้องเป็นปัญหาที่กระทบต่อประชาชน เรื่องการต่างประเทศยังไม่มีการคุยกัน แต่ตนเองเห็นถึงความสำคัญของจุดยืนทางการทูตในเวทีโลก จึงมีความสำคัญเร่งด่วนในการสร้างจุดยืนทางการทูตของไทยให้ชัดเจนในเร็ว ๆ นี้

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อเรื่องของเมียนมากระทบอย่างไรบ้างต่อจุดยืนทางการทูตของประเทศไทย และจะมีการปรับตัวอย่างไร นายกัณวีร์ ระบุว่า จุดยืนทางการทูตของไทยตั้งแต่สงครามเย็น เน้นทวิภาคี พูดคุยกัน 2 ประเทศ เน้นอนุรักษ์นิยม ความมั่นคง เราจำเป็นต้องใช้กรอบใหญ่กว่านี้ คือ พหุภาคี คุยเรื่องสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้น เพราะสิทธิมนุษยชนที่เสนอไปในประชามติ 5 ข้อของอาเซียน ยังไม่ได้สะท้อนถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในเมียนมา หลังจากการรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ. 64

 

 

ก็ยังไม่มีองค์กรหรือประเทศใดในการพูดคุยเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องแสงความเป็นผู้นำ และกล้าแสดงออกว่ามีการลิดรอนสิทธิอย่างรุนแรง ควรใข้เวลานี้ แสดงจุดยืนให้ชัดเจน ตนเองเห็นในวงที่เข้าร่วมการประชุมวันนี้ ที่ไม่ได้มาจากอาเซียนอย่างประเทศจีน และประเทศอินเดียเข้าร่วมการประชุมด้วย ควรรวมประเทศใกล้เคียงเมียนมาให้หมดทั้ง 5 ประเทศในการแก้ไขเรื่องนี้

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube