fbpx
Home
|
ข่าว

The People จัดงานเสวนาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกทุกวันนี้

Featured Image
The People จัดงานเสวนาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกทุกวันนี้คนในวันพรุ่งนี้ต้องปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง

 

 

 

The People จัดงานร่วมแลกเปลี่ยนว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกทุกวันนี้คนในวันพรุ่งนี้ต้องปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมอย่างไรบ้างโดยผู้ร่วมเสวนา ดังนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์

 

 

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับโลกที่กำลังจะเปลี่ยน อย่างน้อย5ด้านที่เราจะต้องปรับตัว เราต้องปรับวิกฤตโลกให้เป็นโอกาสของประเทศ อย่างแรกคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างที่สอง ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) อย่างที่สาม สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างที่สี่ วิกฤตโรคระบาด (Emerging disease) อย่างที่ห้า เทคโนโลยี Disruption

 

 

ต่อมานายพิธา กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นส.ส.มาตลอด4 ปี มองเห็นงบประมาณและการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องP.M 2.5 , ทุนจีนสีเมา,วัคซีน,ไวรัสโรคระบาด.,ราคาปุ๋ย โลกาภิวัตน์กำลังเข้ามากินประเทศไทยเรื่อยๆ ไทยไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อะไรจากโลกาภิวัตน์ได้เลย เพราะฉะนั้นตนจึงมองว่าโลกาภิวัตน์กำลังกินไทยแต่ไทยไม่ได้กินโลกาภิวัตน์ และกำลังไหลไปที่อื่น และในเรื่องของเทคโนโลยี หลายงานหลายอาชีพกำลังจะหายไป

 

 

ขณะเดียวกันนายสุชัชวีย์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าโลกเปลี่ยนไปมากและไม่มีความขยับไปข้างหน้า ภาวะโลกรวนนี่คือจุดตายยิ่งกว่าปัญหาปากท้องและปัญหาอื่น การที่จะควบคุมโลกอุณหภูมิไม่ถึง2องศานั้นเป็นเรื่องยาก สามารถทำร้ายโลกได้ อาทิเช่น ฝนตกมากกว่าเดิม เกิดไฟป่ามากกว่าเดิม ในส่วนของวิศวกรรมชีวะการแพทย์ใครที่เข้าถึงวิศวกรรมการแพทย์ได้ถือว่าเป็นผู้ชนะ “เราไม่ซื้ออาวุธจากอเมริกา เราก็สามารถซื้อจากประเทศอื่นได้ แต่หากเราไม่ได้วัคซีนจากคนที่ทำ ได้เครื่องยิงมะเร็งจากผู้ผลิต เพราะฉะนั้นจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบมหาศาล แต่วันนี้ยังไม่มีใครพูดถึงจึงมองว่ามันคือจุดตายของประเทศ”

 

 

ในมุมมองของการปรับตัวทั้งสามคนนั้น นายสุชัชวีย์กล่าวก่อนว่า “อันดับแรกตอบคิดไม่เหมือนเดิม และความเชื่อมีความหวังถ้าคิดแต่ว่าจะทำแบบนั้นแบบนี้และพูดแต่ว่าทำไม่ได้สุดท้ายเราตายอย่างเดียว”ตนเชื่อว่าคนไทยจริงๆ แล้วเป็นคนเก่ง และตนอยากให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษา ต่อให้เราไม่มีต้นไม้สักต้นแต่เรามีความรู้ก็ยังสามารถที่จะทำมันได้ จึงมองว่าตรงนี้แหละคือจุดเปลี่ยน

 

 

โดยต่อมานายพิธา กล่าวว่า ต้องเป็นผู้นำที่ฟังมากกว่าพูด เป็นผู้นำที่เมื่อไหร่จะต้องนำและเมื่อไหร่จะต้องตาม ถ้าเป็นผู้นำสองแบบนี้ได้ก็จะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่โลกเปลี่ยนมันก็จะมีการเปลี่ยนไปในแบบที่ดีขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศได้ถ้าหากรับฟังความคิดเห็นจากคนรุ่นใหม่

 

 

ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คนไทยอยู่กับสงครามความขัดแย้งมาตั้งแต่รัฐประหารปี49 17ปีแล้วที่เกิดปัญหาภายใน และในขณะเดียวกันปัญหาภายในนี้ยังไม่มีท่าทีที่จะจบหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าเรายังคิดกันแบบเดิมติดอยู่ในกรอบเดิมที่อยู่ในแค่สองขั้ว และประเทศเองถดถอยลงมาเยอะหลังจากการรัฐประหารมาสองครั้ง ตนอยากเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประเทศอย่างดีที่สุดให้กับคนรุ่นต่อไป แชะอยากให้กำลังใจกับนักธุรกิจทุกคน ตนมองว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นเราควรพลิกให้เป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย และในฐานะการเป็นผู้นำถ้าอยากได้อะไรต้องรู้จักปรับตัวและควรเรียนรู้ตลอดเวลา

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube