fbpx
Home
|
ข่าว

“อนุทิน” อุทาน “โอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็น” นายกฯเสียงข้างน้อย

Featured Image
“อนุทิน” อุทาน “โอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็น” นายกฯเสียงข้างน้อย บอกอย่าไปกลัวกติกาบิดเบี้ยว มองเกิดยาก ลำบากแน่นอน หากหวังพึ่ง ส.ว. – เตรียมลาราชการยาวหาเสียง

 

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโอกาสการร่วมรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวดีลลับ การจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าตนยังไม่ได้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ตนก็ ได้อ่านข่าวอยู่เหมือนกัน พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆในเรื่องนี้ ส่วนโอกาสมีความเป็นไปได้หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้รอผลการเลือกตั้งดีที่สุด เพราะหลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง

 

ส่วนภาพปรากฏที่นายอนุทินและแกนนำพรรคภูมิใจไทยร่วมรับประทานอาหารกับพล.ประวิตรที่มูลนิธิป่ารอยต่อถึง 2 ครั้ง ได้มีการพูดคุยเรื่องดีลทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขอผู้สื่อข่าวคิดมากหรือเปล่า ทำงานร่วมกันมา 4 ปีกินข้าวร่วมกันมันแปลกตรงไหน และตนไม่ได้ข้ามไปกินข้าวกับอีกฟากเสียเมื่อไหร่ ก็กินกันอยู่ในนี้ ตนมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ และหากจะพูดคุยเรื่องความรักจริงๆ หรือที่มีการวิเคราะห์กันตามสื่อว่ามีการหารือกันเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และมีการตกลงจะให้ใครเป็นนายกจริงๆ คงไม่คุยกัน 8 คนมั้ง พร้อมยืนยันว่าการกินข้าวไม่ใช่ความลับอะไร เป็นการร่วมรับประทานอาหารกันธรรมดา

 

นายอนุทิน ยืนยันว่า การหารือบนโต๊ะอาหาร ไม่มีการพูดคุยถึงประเด็นคดีของนายศักดิ์ สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพราะนายศักดิ์สยาม มั่นใจในข้อกล่าวหา ว่าสามารถจัดเตรียมเอกสารเพื่อแก้ข้อกล่าวหาได้ แล้วบอกว่าไปเรียนดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ข้อราชการ หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี เพราะถ้าใครโดน สั่งให้ไปชี้แจงก็ต้องไปชี้แจง

 

ส่วนกำหนดการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ทั่วประเทศ ขอให้รอ ในขณะนี้จะมีการตรวจสอบเอกสาร และประชุมผู้บริหาร ซึ่งในวันที่ 3 เมษายน ว่าที่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตก็จะ ไปลงสมัครยังกกต ส่วนในวันที่ 4 เมษายน จะไปในส่วนของผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยลงตัวทุกเรื่องอยู่แล้ว

 

ส่วนกระแสข่าวในพื้นที่ภาคอีสาน หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโจมตีในประเด็นทางการเมืองนั้น ทางพรรคก็มีการทำโพลในพื้นที่ต่างๆ และล่าสุดก็มีโพลออกมาระบุว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ขณะเดียวกันในทางตรงกันข้ามคะแนนนิยม ในตัวของพรรคภูมิใจไทยก็มีมากขึ้นด้วย

 

ส่วนอนาคตหลังการเลือกตั้ง หากพรรครวมไทยสร้างชาติได้คะแนนน้อยกว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีการหลีกทางให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค หรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า กติกาสากลมีอยู่แล้ว ขออย่าเพิ่งไปถามเลย เพราะถ้าบอกตอนนี้ว่าคนใดน้อยคนใดมาก คนได้น้อยอาจจะไม่พอใจ หรือเสียกำลังใจ

 

พร้อมยังย้ำอีกว่ากติกาสากลมีอยู่แล้วคะแนนมากทำเช่นไรคะแนนน้อยทำเช่นไร เพราะเรื่องการเมืองคงไม่พ้นกติกาสากลหรอก พร้อมย้ำอีกว่า อย่าไปกังวล ขอให้รอผลการเลือกตั้งให้นิ่งและชัดเจนก่อน ซึ่งไม่ต้องรอถึงการรับรองผลของกกตอย่างเป็นทางการเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม 22:00 – 23:00 น ก็เห็นเค้าลางแล้ว แล้วเราค่อยดำเนินการหลังจากนั้นต่อไป ตอนนี้หาพูดอะไรไปจะถือเป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกลัวมาก และตนก็จะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องของทิศทางใดๆ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแล้ว

 

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังระบุอีกว่าการที่จะไปพบเจอกับคนนั้นคนนี้หรือร่วมรับประทานอาหาร อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องปล่อยทิศทางทางการเมืองออกมา ซึ่งมันไม่ใช่เลย ทางนี้นักการเมืองมีนโยบายเป็นของตัวเองแต่ผู้บริหารไม่มี อะไรกับใครเลย พร้อมมองว่าหากจะให้เป็นความลับจริงๆ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นความลับอะไร จึงมีการเผยแพร่รูปออกมา

 

ส่วนเชื่อหรือไม่ว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรจะมีกติกาแปลกๆออกมา นายอนุทินกล่าว ยืนยันว่าไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครรับกติกาแปลกๆหรอกครับ เพราะกติกาสากลเขาทราบกันอยู่ คุณได้คะแนนสูงสุดก็ได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย หากจะตั้งไม่สำเร็จก็ต้องเป็นพรรคลำในลำดับต่อไปเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลแทน แต่สุดท้ายก็จะมาตกอยู่ว่าใครจะได้คะแนนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ขออย่าไปกลัวรัฐบาลเสียงข้างน้อยเลยเพราะเกิดยาก และยังมีเวลาอีกกว่า 60 วัน

 

เนื่องจากจะต้องมีการรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะมันสามารถมีโอกาส จัดตั้งรัฐบาลและเจรจาหารือเปลี่ยนแปลงก็ได้หมด สิ่งที่ภาคภูมิใจไทยวันนี้ไม่ได้คิดว่าจะ กลับกับใครแต่จะคิดอย่างไรให้เข้าในสภาฯได้ให้มากที่สุดตามเป้าหมาย

 

ทั้งนี้ หากสมมติว่าพรรคภูมิใจไทยได้มาเป็นลำดับ 2 และพรรคลำดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภูมิใจไทยจะมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอนุทินกล่าวว่ามันมีแนวทางและวิธีการอยู่แล้ว ซึ่งได้ดำเนินการทางกติกา พร้อมย้ำว่าการตั้งรัฐบาลสุดท้ายก็ต้องมาจบที่เสียงข้างมากอยู่ดี ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

 

ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ กับสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมาจากเสียงข้างน้อยและได้รับเลือกในสภาฯ แต่ไม่ใช่มาจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน ถึงกับอุทาน ว่าโอ้โห นั่นมันตายทั้งเป็นนะ คงไม่มีใครกล้า อย่าลืมว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เราใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ในการกำหนดให้ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ท้ายที่สุดนายกรัฐมนตรีจะอยู่ได้ ก็เพราะส.ส. และส.ว.เป็นเพียงผู้พายเรือมา แต่ไม่สามารถอยู่ประคับประคองให้ได้

 

หากมีปัญหาแล้วจะเปลี่ยนมานั่งเรือของส.ว.ไม่ได้ ส.ว. เป็นผู้พายเรือมาส่งทอดให้นายกรัฐมนตรีไปยังเรือของส.ส. สุดท้ายหากมีพวกเป็นส.ส.ไม่มากพอก็ไม่สามารถอยู่ได้ แล้วใครจะอยากอยู่ในสภาพนั้นล่ะ พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยกังวลตรงนั้น หากรวบรวมเสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของส.ส.ก็มองว่าจะตั้งรัฐบาลยาก ลำบากแน่นอน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตนไม่อยากคิดไปถึงตรงนั้น ขอคิดเพียงแค่ในส่วนที่ตนรับผิดชอบวันนี้ก่อน คือพยายามให้ส.ส.เข้าสภาให้ได้มากที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ยังระบุอีกว่าหลังจากวันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไปถึงวันที่ 14 พฤษภาคมตนจะลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด ซึ่งจะต้องหาวิธีว่าจะสามารถลาราชการ ซึ่งจะต้องไปดูว่าสามารถลายาวได้หรือไม่ หรือมีกฎระเบียบอะไรอย่างไร และ หากงานที่กระทรวงมีการประสานมา ก็ต้องหาวิธีการใช้การสื่อสารทั้งการใช้มือถือ และออนไลน์ต่างๆ

 

ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียง 1 คนและตนจะนั่งในตำแหน่งสสปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 เท่านั้น

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube