fbpx
Home
|
ข่าว

ครม.ปรับเพิ่มอุตสาหกรรม เป้าหมายผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

Featured Image
ครม.ปรับเพิ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ภายใต้ LTR Visa ตามมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย

 

 

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ภายใต้การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย Long-Term Resident Visa (LTR Visa) โดยเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ อุตสาหกรรมขนส่ง และโลจิสติกส์, อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์,

 

 

ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยชาวต่างชาติขอรับการรับรองคุณสมบัติฯ ซึ่งต้องทำงาน โดยใช้ทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง ใน 9 ด้าน เช่น การวิจัย และพัฒนาในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือเทคโนโลยีเป้าหมาย(เช่นเทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับอาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในการประกอบธุรกิจ การบริการด้านระงับข้อพิพาท

 

 

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ไทย ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีอำนาจในการประกาศกำหนดเพิ่ม ลด หรือปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายได้ ตามความเหมาะสม เพื่อลดเวลาในการดำเนินการ และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงสู่ประเทศไทยได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

ทั้งนี้นายอนุชา ระบุว่า การปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa ใหม่ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ที่ได้รับ LTR Visa สามารถทำกิจกรรมซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในไทยได้ในระยะยาวด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube