fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ เปิดหลักสูตรวปอ.ย้ำปท.ต้องสงบไม่ทะเลาะกับใคร

Featured Image
นายกฯ เปิดหลักสูตร วปอ.รุ่น 65 ย้ำประเทศต้องสงบเรียบร้อย เป็นดินแดนสันติภาพ เหน็บที่ดินไทยยังเหลือพอเพราะหลายคนอยากไปอยู่ต่างประเทศ พร้อมรับความเห็นทางการเมือง ลั่นไม่อยากไปทะเลาะกับใคร

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 และบรรยายหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศของเรามีความได้เปรียบและมีการพัฒนาในหลายด้านแม้ว่าที่ผ่านมาเราจะประสบปัญหาอยู่บ้างทั้งภัยธรรมชาติและโรคระบาด ขาดโอกาสสร้างความเข้มแข็งแต่ต้องอย่าลืมว่าทุกวันนี้ในวิกฤตต่างๆก็มีโอกาส มีมิตรประเทศในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนถือว่ามีสิ่งสำคัญทั้งภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการดูแลเยียวยาแก้ไขปัญหาของประชาชนและขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆเพื่อประชาชน

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปคซึ่งถือว่าได้รับความไว้วางใจจากต่างประเทศ และการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติไว้ เพราะที่ผ่านมาบางรัฐบาลมีอายุการทำงานที่สั้น จึงไม่เห็นผลงานปรากฏออกมา โดยตอนนี้เราได้เดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้ จึงต้องสร้างความเข้าใจกับทุกคนที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการวางแผนไว้ เพราะว่ามองว่าตัวเองจะอยู่นานหรือไม่

 

แต่รัฐบาลนี้ยืนยันว่าโครงการสำคัญๆที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติจะต้องดำเนินการให้สำเร็จทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมีความต่อเนื่อง ไม่ว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาก็จะต้องดำเนินการต่อตามแผนยุทธศาสตร์ด้วยการร่วมมือกันและเข้าใจกัน เราจะมุ่งหวังให้เราเป็นประเทศเดียวที่จะได้รับประโยชน์ไม่ได้ วันนี้เราจะต้องสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นให้ได้

 

ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ในการขับเคลื่อนประเทศชาติไปข้างหน้าเรา ต้องย้อนกลับย้อนไปดูว่าเราสามารถหาเงินได้จากที่ใด โดยการบริหารงานตลอด 8 ปี เราจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเพื่อให้เกิดอนาคตประเทศไทย จึงขอให้มีการพูดคุยหารือเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่ารัฐบาลดูแลมากน้อยอย่างไร

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำอยู่คือการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ เพราะวันนี้เราเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย มีการค้าเสรีแต่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมากขึ้น จึงต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้และรัฐบาลกำลังพยายามทำอยู่คือการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า การสร้างรายได้ให้กับประชาชนและการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย รวมทั้งการเข้าถึงการบริการภาครัฐ เพราะนั่นคือความเท่าเทียม พร้อมพัฒนาตนเอง

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในโลกแต่เป็นคนช่างคิด คิดไปเรื่อยอะไรทำได้ ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็ไม่ทำ แต่ถ้าหยุดคิดก็ทำอะไรไม่ได้หรือคิดเฉพาะความขัดแย้งคิดแต่จะไปสู้เขายังไงมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมากับประเทศชาติ พร้อมถามผู้มาร่วมงานว่า ทุกวันนี้ฟังผมรู้เรื่องกันหรือไม่ พอเข้าใจกันใช่หรือไม่

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บทบาทของภาครัฐวันนี้ไม่ใช่แค่รักษาอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยแล้ว วันนี้ไม่ใช่ถือดาบถือปืนเดินหน้าลุยกันเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่วันนี้มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆมากมายสิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดทำอย่างไรเราจะสงบเรียบร้อยไม่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศทั้งจากพวกเรากันเองและภายนอก ทำอย่างไรให้ดินแดนของเราเป็นดินแดนสงบสุขเป็นดินแดนแห่งสันติภาพและดินแดนแห่งรอยยิ้ม เราอยากให้ดินแดนแห่งอาเซียนเป็นดินแดนแห่งสันติภาพพูดคุยกับใครก็ได้แก้ปัญหาอะไรก็ได้เป็นสิ่งที่เราพยายามทำและพยายามสร้างคนไทยต้องดูตรงนี้ด้วย

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชน ตนและรัฐบาลได้คิดออกมา ถึงได้มีคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติขึ้นมา ไปดูการเข้าถึงที่ดินและการทับซ้อนของที่ดินของภาครัฐที่มีมากพอสมควร วันนี้คิดไปคิดมาที่ดินของประเทศไทยอาจจะลดลงก็ได้ เพราะซ้ำซ้อนกัน แต่ก็เพียงพอ เพราะก็มีคนอยากไปอยู่ต่างประเทศเยอะพอสมควร ที่ดินก็น่าจะพอพูดไปเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก ตนชอบพูดหาเรื่อง แต่ตนไม่อยากไปตอบโต้ เพราะประเทศชาติเดินไปข้างหน้าด้วยดี โดยเฉพาะการตอบรับการเข้าร่วมประชุมเอเปคก็เป็นไปด้วยดีส่วนใหญ่เป็นผู้นำหลัก ที่เดินทางมามีเพียงบางประเทศที่ส่งผู้แทน เพราะสถานสถานการณ์ในประเทศมีปัญหา ซึ่งเชื่อว่าการประชุมเอเปคจะเป็นไปได้ด้วยดี เราต้องช่วยกันเป็นเจ้าภาพให้ดีที่สุดฝากประชาชนช่วยกัน วันนี้เป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยยืนอยู่ในโลกปัจจุบันได้อย่างไร

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เราต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเมื่อวานก็พูดกับท่านทูตไป เพราะเรามีบริบทที่ต่างกันพอสมควร ประเทศไทยและหลายประเทศในตะวันตก และตะวันออก มีสถาบันพระมหากษัตริย์เรามีกฎหมายของเราที่จำเป็นต้องคุ้มครอง ทุกประเทศเรามีกฎหมายที่ใกล้เคียงกัน

“การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบ ผมยอมรับความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต แต่พูดถ้าไม่มีข้อมูล ผมก็จำเป็นต้องชี้แจงบางทีมันก็ไม่ใช่เลยแต่ผมไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ผมอยากจะฟังเสียงพี่น้องประชาชนในสิ่งที่เขาต้องการ ในสิ่งที่เป็นไปได้ และทำให้เขาให้ได้เพื่อจะแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาล เอกชน ภาคการเมืองมีบทบาทสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงความก้าวหน้าให้กับประเทศชาติ”

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube