fbpx
Home
|
ข่าว

“ทนายไพศาล” บุกกห.จี้สอบปมหัวคิว5% กู้สวัสดิการทบ.

Featured Image
“ทนายไพศาล” บุกกลาโหมจี้สอบปมหัวคิว 5% กู้สวัสดิการทบ. ซื้อบ้านพักมูลค่าเสียหายกว่า 60 ล้านบาท

 

 

 

 

นายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลและเป็นผู้เสียหาย ได้รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะ 21 รายชื่อนายทหารที่เกี่ยวข้องกับ การเรียกรับผลประโยชน์ 5% ที่อ้างว่าเป็นค่าทำเนียบของกองทัพบก

 

มายื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้เสียหายร้องทนายไพศาลและขอให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยาน เนื่องจากถูกข่มขู่ เพราะไปรู้ความลับเรื่องการกู้เงินสวัสดิการ กองทัพบกเพื่อซื้อบ้านของกำลังพล โดยมีเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เกี่ยวข้องหักหัวคิว 5% จากวงเงินกู้และให้ผู้ประกอบการที่สร้างบ้านขายเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินส่วนนี้ มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

 

โดยนายไพศาล ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้มีการออกมาชี้แจงจากฝั่งของกองทัพบกว่า? เรื่องที่เกิดขึ้นกองทัพบก ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับกองทัพบก ผลการสอบสวนได้เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว มีบทลงโทษตามระเบียบของทางราชการ และวินัยทหารต่อกำลังพลที่ถูกร้องเรียน งดบำเหน็จประจำปี การปรับย้ายออกจากตำแหน่ง และมีคำสั่งให้ระงับโครงการกู้เงินดังกล่าว

 

ตั้งแต่ปี 2564 พร้อมกับได้ปรับระบบกิจการออมทรัพย์ของกองทัพบกในภาพรวม อีกทั้งจากการสอบสวนพบประเด็นการกู้ยืมเงิน ระหว่างผู้ร้องกับกำลังพลที่ถูกร้องเรียนด้วย ถือเป็นข้อพิพาทส่วนบุคคล และปัจจุบันอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

 

ซึ่งในฐานะทนายความ ขอถามกลับไปที่กองทัพบกว่า ประเด็นแรก ที่บอกว่าระงับโครงการตั้งแต่ปี 64 แต่จากพยานหลักฐานที่ผมได้รับทำไมมีการเรียกรับผลประโยชน์ 5% อีก ในปี 2565 ประเด็นที่ 2 กองทัพบกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์นั่นหมายถึงความผิดสำเร็จแล้วมีการลงโทษตามระเบียบราชการ แต่เหตุใดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 20 กว่ารายชื่อในมือผม ยังมีการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ตั้งแต่ปี 2563 อยากถามกองทัพบกว่า นี่เป็นระเบียบการลงโทษข้าราชการที่ทำการทุจริตใช่หรือไม่

 

ประเด็นที่ 3 ความผิดสำเร็จแล้วและความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ผู้ประกอบการสร้างบ้านขายทั้ง 2 รายต้องจ่าย 5% ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมของกองทัพบกและหลังจากการตรวจสอบ พบว่าไม่มีการเรียกเก็บค่าดำเนินการในส่วนนี้ 2554 – 2563 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทมีการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ให้กับผู้ประกอบการแล้วหรือยัง

 

ประเด็นที่ 4 ที่กองทัพบกออกมาชี้แจงว่ามีการกู้ยืมเงินระหว่างผู้เสียหายกับนายทหาร ยศนายพล ซึ่งเรื่องอยู่ในชั้นศาล อันนี้ผมทราบดีและไม่ได้นำมาเกี่ยวข้อง ซึ่งตั้งแต่แรก ที่เป็นข่าวไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากกองทัพบกนำประเด็นนี้มาเปิด ก็ยิ่งดี เพราะผู้เสียหายก็มีหลักฐานทั้งหมด

 

ทั้งนี้ การที่ทนายไพศาล มายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวันนี้ เพราะการชี้แจงของกองทัพบก ไม่มีความชัดเจน และบางประเด็นยิ่งทำให้เกิดความสับสนและสร้างความขัดแย้ง ระหว่างผู้เสียหายกับกองทัพและกำลังพล จึงอยากให้กระทรวงกลาโหมในฐานะหน่วยเหนือที่เป็นผู้กำกับดูแลกองทัพบก ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หากต้องการพยานหลักฐานในส่วนใด ทางทนายไพศาลและผู้เสียหายพร้อมจะส่งหลักฐานให้กับท่านโดยตรง

 

นอกจากนี้ ทนายไพศาล เปิดเผยอีกว่า มีกำลังพลที่เป็นนายทหารชั้นผู้น้อยส่งเรื่องมาร้องเรียนและให้ตรวจสอบอีกจำนวนมากกรณีการกู้เงินสวัสดิการเพื่อซื้อหรือสร้างบ้านพัก และหลังจากมา ช่วยเหลือและทำเรื่องดังกล่าวเมื่อวานมีคนขับรถประกบซ้ายขวาซึ่งไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube