“จุรินทร์” ย้ำจุดยืนประชาธิปัตย์ ไม่เอาด้วยแก้ ม.112 ชี้ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุข บอกไม่คาดคั้นนายกฯปรับครม. ไม่รู้ข่าวเลือดไหล โวเลือกตั้งรอบหน้า ภาคใต้ได้มากกว่าเดิมแน่นอน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรี
ที่ว่างลงของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนคุยไปแล้วก่อนหน้านี้ ถัดจากนี้ก็เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการต่อไปเมื่อไหร่ ซึ่งตอนให้เกียรติและไม่ไปคาดคั้น ซึ่งขอให้ท่านใช้เวลา เพราะตนเข้าใจ
เราก็เคยเป็นแกนนำรัฐบาลมาว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง และถือว่าภารกิจของพรรคประชาธิปัตย์เสร็จสิ้นแล้ว
ส่วนกรณีกระแสข่าว อาจจะมีสมาชิกพรรคย้ายออก ได้ตรวจสอบอะไรหรือไม่ นายจุรินทร์ ระบุ ไม่มีหรอกครับ และเมื่อวาน นายสาธิต ก็ปฏิเสธ ซึ่งตนไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน เพราะบางครั้งก็ทำให้
พรรคประชาธิปัตย์ติดลบ ปรารถนาดีก็มีปรารถนาไม่ดีก็มีสารพัด แต่ในทุกพรรคการเมืองเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ปรากฏการณ์คนเข้าคนออกก็มีทุกพรรค บางครั้งมีหลายกรณีหลายเหตุผล
เช่นการเลือกส่งผู้สมัคร พร้อมเผยว่า ประชาธิปัตย์มีผู้สมัครหลายเขตที่นิ่งแล้ว เป็นที่ยุติ และเขตไหนเมื่อถึงเวลาเหมาะสม ก็จะทยอยเปิดตัว
ส่วนการเปิดตัวในพื้นที่ภาคใต้ จุรินทร์ออนทัวร์ ต่อไปก็จะไปที่จังหวัดสมุทรสาคร แล้วก็จะทยอยไปในหลายจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานครก็พร้อมเกือบหมดแล้ว
เมื่อถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าภาคใต้จะได้ส.ส.มากกว่าเดิมหรือไม่ นายจุรินทร์ย้ำว่ามั่นใจ การเลือกตั้ง ที่ผ่านมาได้ 22 ที่นั่งครั้งหน้ามั่นใจได้มากกว่าเดิม ตนกล้ายืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวเลือก
ที่เสนอตัวให้ประชาชนได้ดีที่สุดพรรคหนึ่ง พร้อมเผยว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การแก้รัฐธรรมนูญหมวด1 หมวด2
มาตรา 112 พรรคไม่เอาด้วย เราพูดชัดหลายครั้งแล้ว แต่ถ้าแก้ส่วนอื่นแล้วทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน
“ต้องไม่แตะหมวด1 หมวด2 และไม่แก้มาตรา 112 เหตุผลมีชัดเจนว่า มันไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุขของตัวเอง ไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบไหน
ก็มีบทคุ้มครองประมุขของตัวเองทั้งนั้น ประเทศไทยก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราผิดแปลกไปจากประเทศอื่น ฉะนั้นมาตรา 112 ก็เป็นมาตราที่มีความจำเป็น เพื่อคุ้มครอง
ประมุขของประเทศไทย” นายจุรินทร์ กล่าว
นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอ ให้ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม กก.ละ 2 บาท ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรนกว่าเดิม เพื่อให้ราคาผลปาล์มของเกษตรกรสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้อีก
และหากผ่านความเห็นชอบ ก็จะมีผลให้ราคาผลปาล์มในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้อีกรอบ เพราะนอกจากจะผลักดันให้มีการส่งออกแล้ว ในประเทศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้ปรับเพิ่มส่วนผสมการใช้น้ำมันปาล์มในดีเซลจาก B5 เป็น B7 มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นมา ทำให้ราคาผลปาล์มของเกษตรกรในประเทศเริ่มขยับสูงขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
