fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ เร่งขับเคลื่อนอุตฯดิจิทัลไทยเพิ่มมูลค่า6.9แสนลบ.

Featured Image
นายกฯ เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย สร้างโอกาส-ความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว คาดเพิ่มมูลค่าสูงขึ้นถึง 6.9 แสนล้านบาทในปี 2567

 

 

 

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งจากการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลไทยมีอัตราการเติบโตอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2567 มูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 6.9 แสนล้านบาท นายอนุชา ยังระบุว่า ผลสำรวจข้อมูลสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ประจำปี 2564 ที่จัดทำโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กับ สถาบันไอเอ็มซี

 

ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล ทั้งในส่วนของข้อมูลรายได้และการจ้างงาน พบว่า
ภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 25 จากปี 2563 มูลค่ารวม 8.98 แสนล้านบาท และเมื่อพิจารณารวมกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์

 

พบว่ามีการขยายตัว ร้อยละ 14.33 หรือมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.58 ล้านล้านบาท โดยอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงที่สุด มีอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 37 ด้วยมูลค่า 3.46 แสนล้านบาท

 

ซึ่งการเข้าสู่สังคมดิจิทัลของประเทศไทย และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงการทำงานจากระยะไกล (Work from home) ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้อุตสาหกรรมดิจิทัลไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ สถาบันไอเอ็มซี ยังได้คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมที่จะเติบโตมากที่สุดในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2565-2567) คือ บริการดิจิทัลและ Big Data อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ตามลำดับ โดยจะทำให้อุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัลมีสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับ ทุกพื้นที่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย มูลค่าอุตสาหกรรมจะสูงขึ้นถึง 6.9 แสนล้านบาทในปี 2567

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube