พล.อ.ประวิตร ประชุมคณะกรรมการแก้ไฟใต้ พิจารณาต่อขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนเป็นประธานแถลงผลงานนักศึกษาวปอ.64
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลในเวลา 09.30 น. โดยภารกิจในช่วงเช้า เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 3/2565 โดยที่ประชุมจะมีการเสนอเพื่อทราบถึงผลการลงมติไม่รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ซึ่งเสนอโดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และคณะ นอกจากนี้ยังมีการเสนอเพื่อทราบ ผลการปฏิบัติงาน ตามพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินปีพ.ศ 2558 ช่วงวันที่ 20 มิ.ย.-22 ส.ค.65 ขณะเดียวกันที่ประชุมจะเสนอเพื่อพิจารณา การขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้นพล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ คปต. ในเวลา 10.00 น. โดยที่ประชุมจะมีการรายงานถึงสถานการณ์ด้านการข่าวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ /การขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกการบริหารการสื่อสารจังหวัดชายแดนภาคใต้ SBIC (Southern Border Information Center) รวมไปถึงผลการขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
โดยที่ประชุมยังติดตามความก้าวหน้าตามมติ คปต. และข้อสั่งการสำคัญความคืบหน้าการขับเคลื่อนศูนย์พัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้จะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา
ร่างแผนการสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ พ.ศ. 2566 – 2570
ขณะที่ในช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานในพิธีแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 64 ณ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
