“อมรัตน์” ให้กระจก “บิ๊กตู่” ไว้ส่องสะท้อนตัวเอง ด้านนายกฯ สวนทันทีไม่ค่อยได้ใช้กระจก พร้อมเอาคืนกล่าวหาก้าวล่วงสถาบัน
ช่วงหนึ่งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้มีการยกกระจกขึ้นระหว่างอภิปราย พร้อมระบุว่า ” สุดท้ายที่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ่งนั้นคือกระจกบานนี้ เพราะท่านปิดคอมเมนต์ในเพจเฟสบุ๊กประยุทธ์จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะสะท้อนความรู้สึกไปยังท่านได้
ซึ่งตนอยากบอกว่ากระจกบานนี้เวลาที่ท่านชี้หน้าใครบอกว่าก่อความวุ่นวายก่อความไม่สงบให้มองที่กระจกบานนี้ เวลาที่เที่ยวชี้หน้าใครบอกไม่มีมารยาท ไม่รักชาติให้มองที่กระจกบานนี้และเวลาที่ท่านว่าใครไม่อ่านประวัติศาสตร์ก็ให้ท่านมองที่กระจกบานนี้ ทั้งหมดคือในกระจก
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ใช้โอกาสไปกราบสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาถวายธูปเทียนพรรษา และก็ได้ ขอแบ่งขอมอบให้กับทุกคนด้วย เนื่องในช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้ให้กับทุกคนด้วย แต่ว่าใครจะรับได้ รับไม่ได้ก็แล้วแต่ เพราะว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมดีก็ย่อมได้รับกรรมดี ทำกรรมไม่ดีก็คงปรากฏต่อไป
จะพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด แต่อาจจะไม่ดีในสายตาของท่าน ก็ไม่เป็นไร วันนี้ท่านบอกว่าชื่อของตนมีความหมายนู่นนี่ ก็ไปคิดเอาแล้วกันว่า “ตู่กับเตี้ย” ความหมายเหมือนกันหรือไม่ คงไม่เหมือนกันหรอกนะ แต่ไปดูว่าประโยชน์อะไรใครทำมากกว่า ผมเห็นว่าท่านก็เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกตลอดเวลา
ท่านบอกว่าศึกษาประวัติศาสตร์ โอเคครับ ก็ดีครับ ท่านก็ศึกษาประวัติศาสตร์ส่วนที่ดีไว้บ้างก็แล้วกัน สิ่งที่ท่านทำหลายๆ อย่างก็ปรากฏแล้วว่าเป็นเรื่องของการเกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบันของชาติ ซึ่งตนรับไม่ได้อยู่แล้ว และจำเป็นต้องพูด ”นอกจากนี้นายกฯ ยังระบุ ถึงเรื่องกระจกด้วยว่า ตนไม่ค่อยได้ใช้กระจก
จากนั้นนางอมรัตน์ ได้ลุกขึ้นประท้วงขอใช้สิทธิ์พาดพิง โดยระบุว่า เมื่อสักครู่ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงตนว่า “ก้าวล่วงสถาบันตรงไหน และข้อหามาตรานี้ผิด มีโทษร้ายแรง อยู่ดีๆ จะมาปากพล่อยว่าคนอื่นอย่างนี้ได้อย่างไร อย่ามั่ว เที่ยวพูดตีขุมแบบนี้ ก่อนที่ นายชวน หลีกภัย ประธานในที่ประชุม จะปิดไมค์ของ นางอมรัตน์ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงอีกครั้งว่า เวลานางอมรัตน์ พูดอะไรมาทั้งหมด ตนก็ฟังได้และท่านก็ฟังผมบ้าง ไม่ได้ว่าอะไรที่เกินความเป็นจริงเท่าไหร่ ว่าไปดูในคดีต่างๆ ก็มีอยู่หลายคดีเหมือนกัน ก็ไปเตรียมต่อสู้คดีเอาแล้วกัน
ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง ว่า นายกรัฐมนตรีได้พาดพิงโดยขอให้ถอนคำพูดทั้งสองอย่าง โดยระบุว่ามาตรา 112 เป็นมาตราร้ายแรง จะมาเที่ยวป้ายให้ใครแบบนี้ได้อย่างไร นี่ก็เอาเด็กไปเข้าคุกไม่ยอมปล่อยไม่ให้ประกัน อย่ามั่ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้พูดสวนกลับมาว่า ไม่ได้ป้าย ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกระบวนการ ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นกล่าวอย่างมีอารมณ์ ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีถอนคำพูด โดยนายกรัฐมนตรีได้สวนกลับว่า “ผมไม่ถอน”
ทำให้นายชวน ต้องเปิดไมค์ของนางอมรัตน์อีกครั้ง และกล่าวว่าขอให้ฟังประธาน โดยกล่าวว่า เราอภิปรายเขาก็หนัก เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถอน โดยขอให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อ และคิดว่าดีที่สุดคือเราต้องระมัดระวัง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
