“วิษณุ” บอกไม่ได้ติวรมต.ห่วงจัดสรรเวลา

“วิษณุ” บอกไม่ได้ติวรัฐมนตรี ห่วงจัดสรรเวลา ชี้คะแนนไม่ไว้วางใจไม่มีผลทางกฎหมายแต่ส่งผลต่อความรู้สึกประชาชน

 

 

 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวภายหลังการประชุมครม. ร่วมวงพูดคุยและรับประทานอาหารกลางวันกับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านในวันพรุ่งนี้ ว่า

 

ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรเป็นพิเศษหรือคุยถึงการอภิปราย เพียงแต่รอเวลากินข้าวเท่านั้น ไม่ได้มีการขอคำปรึกษาด้านกฎหมายใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ตนได้เล่าเหตุการณ์การเมืองในอดีตรวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่สมัยอดีตนายกชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเล่าให้ฟังแบบสนุกไม่ได้เคร่งเครียดอะไร

 

ส่วนการอภิปรายในครั้งนี้เบาบางกว่าในอดีตหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนมองว่าบรรยากาศธรรมดาเพราะมีรัฐมนตรีถูกซักฟอกเยอะ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเพราะในอดีตเคยถูกอภิปรายทั้งคณะ 7 วัน 7 คืนก็มีมาแล้ว ส่วนการเล่าดังกล่าวถือเป็นการปลุกใจก่อนการอภิปรายในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเพียงแต่เป็นการเล่าให้ฟัง

 

ย้ำตนไม่ได้หวั่นไหวอะไรเพียงแต่อยากเล่าให้รัฐมนตรีฟังเท่านั้น ทั้งนี้มีการประเมินและคาดการณ์สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตหรือไม่นั้น นายวิษณุ ยืนยันว่าไม่ได้มีการคาดการณ์อะไร อื่นอาจจะทำแต่ตนไม่ได้ทำ

 

นายวิษณุ ยังระบุว่า ไม่กังวลแต่ห่วงการบริหารจัดการเวลาในการอภิปรายของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ใช้เวลากว่า 4 วันแต่มีประเด็นเยอะแม้จะมีการกำหนดกรอบเรื่องไว้แล้วก็ตาม จะบริหารยากหน่อย ซึ่งถ้าหากเกินกรอบเวลาที่กำหนดก็ต้องไปอภิปรายต่อในช่วงเวลา 00.30- 01.30 น. หรือไม่ก็ต้องไปอภิปรายนอกสภา

 

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถูกอภิปรายเป็นคนสุดท้ายจะมีนัยอะไรแอบแฝงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าตนไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่เพราะได้ยินจากข่าว อีกทั้งหากเรียกลำดับเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเป็นเรื่องปกติและถ้าหากตนเป็นฝ่ายค้านก็จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน

 

ส่วนเสียงจะปริ่มน้ำหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ยังไม่เห็นมีใครพูดถึง ทั้งนี้จะต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาฯที่มีอยู่ คือ 239 เสียงเท่ากับหรือมากกว่าจึงจะไม่ไว้วางใจหลุดจากตำแหน่ง หากมีเพียง 238 ก็ถือว่าสอบผ่าน ส่วนคะแนนเสียงไว้วางใจจะมีเท่าไหร่นั้นในกฎหมาย ม.151 ถือว่าไม่ใช่สาระสำคัญอาจจะมีการงดออกเสียงเป็นร้อยก็ได้

 

แต่ยอมรับว่าส่งผลต่อความรู้สึกของสื่อมวลชนและประชาชนก็จะนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งตนเองไม่สามารถคาดการณ์คะแนนเสียงของฝ่ายค้านได้เพราะขณะนี้มีอยู่ 200 กว่าเสียงไม่รวมงูเห่าที่ไม่สามารถระบุได้ว่าขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านมีอยู่เท่าไหร่กันแน่หรือแม้กระทั่งฝ่ายรัฐบาลเองจะงดออกเสียงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดก็ไม่สำคัญเท่ากับ 239 คะแนนที่จะเป็นตัวเลขหลักซึ่งอยากให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชน

 

ส่วนรัฐมนตรีแต่ละคนที่อาจจะมีคะแนนเสียงไม่เท่ากันนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไรเพียงแต่ทำให้รู้สึกเสียเครดิตซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาอภิปรายกันมา 3 ครั้งแล้วในรัฐบาลซึ่งคะแนนเสี่ยงแต่ละครั้งก็ไม่ได้เท่ากัน ส่วนที่มีการเรียกร้องว่ารัฐมนตรีที่มีคะแนนไม่ไว้วางใจสูงจะต้องรับผิดชอบนั้นนายวิษณุ ระบุว่า

 

ไม่มีปัญหาในทางกฎหมายไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ในมารยาททางการเมืองก็ไม่เคยมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหากคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจสูงเป็นตัวนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันหากไม่ถึง 239เสียง

 

ทั้งนี้แม้ว่าประเด็นคำถามในเรื่องของพลังงานนายกรัฐมนตรีสามารถมอบหมายนายสุพัฒนพงศ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตอบแทนได้แม้ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อการอภิปราย

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews