กมธ.กัญชา ห่วงเด็ก-เยาวชน เข้าถึงกัญชาง่ายเกินไป ขอสื่อร่วมตรวจสอบ ข่าวผู้เสียชีวิตจากกัญชา แต่ผลตรวจเลือด ไม่ได้เสียชีวิตจากกัญชา
นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา-กัญชง สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา-กัญชง ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ว่า กรรมาธิการฯห่วงใยเด็กและเยาวชนในการเข้าถึงกัญชา
โดยขอให้สื่อมวลชน รวมถึงทุกภาคส่วน ร่วมกันตรวจสอบเรื่องการนำเสนอข่าวผู้เสียชีวิตจากกัญชา แต่ผลตรวจเลือด ไม่ได้เสียชีวิตจากกัญชา ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ เชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับวิธีแนวปฏิบัติในการดูแลปัญหายาเสพติดในประเทศ รวมถึงมาตรการปลดล็อกกัญชา
ทั้งนี้ ในช่วงสูญญากาศของการปลดล็อกกัญชาที่มีหลายคนห่วงใยช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ กรรมาธิการฯ ได้นำการนิรโทษกรรมให้กับผู้ใช้กัญชาใต้ดิน เมื่อปี 2562 มาเปรียบเทียบ ก็พบว่า ขณะนั้นก็สามารถเปลี่ยนผ่าน โดยไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ยังเห็นพ้องต้องกัน เรื่องการบรรจุคุณสมบัติผู้ขออนุญาตทำธุรกิจกัญชาในนามบุคคลธรรมดา กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมการจำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
สำหรับคุณสมบัติผู้ขออนุญาตทำธุรกิจกัญชาในนามบุคคลธรรมดา กรรมาธิการฯ เห็นว่า ต้องกำหนดคุณสมบัติว่า ต้องไม่เคยถูกคำพิพากษาจำคุกในความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยกเว้นจะมีบทเฉพาะกาลกำหนดข้อยกเว้นให้บุคคลที่เคยทำผิดเกี่ยวกับกัญชง กัญชา และใบกระท่อมในอดีต ซึ่งจะมีกระบวนการเปิดช่องให้กับผู้ที่เคยกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด หลังพ้นโทษมา 3 ปีให้กลับมาเป็นพลเมืองดี
ขณะนิติบุคคลให้กำหนดให้ต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขคล้ายกับบุคคลธรรมดา แต่จะเพิ่มว่า ต้องเป็นคนไทย มีสัญชาติไทย และกรรมการนิติบุคคลหรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย และหากเป็นธุรกิจชุมชนที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของนิติบุคคล ก็สามารถจดทะเบียนได้เช่นกัน
ซึ่งธุรกิจชุมชนและหน่วยงานของรัฐก็ขึ้นทะเบียนได้เช่นกัน โดยการกำหนดไว้เช่นนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า กรรมาธิการฯป้องกันการกีดกันการเข้าถึงการทำธุรกิจของประชาชน และไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนกลุ่มใด ตลอดจนกลุ่มการเมืองใดด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
