“ชัชชาติ” หาเสียงตลาดสะพาน 2 ชูนโยบายการจัดการทางเท้า หาบเร่แผงลอย ให้สิทธิคนเดินเท้าก่อน ยึดประโยชน์เมืองเป็นหลัก
บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพฯ หมายเลข 8 ในนามอิสระ ที่ตลาดสะพาน2 และตลาดโชคชัย 4ได้รับการตอบรับจากประลาชนเป็นอย่างดี พร้อมกับได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนในเรื่องที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งการค้าขายที่ซบเซาและปัญหาการสัญจร นอกจากนี้ยังได้เดินดูพื้นที่ฟุตบาทของถนนลาดพร้าว ซึ่งพบว่าทางม้าลายบางจุดไม่ชัดเจน และยังพบสายสื่อสารที่พันกันรกและมองว่าหากนำสายสื่อสารเหล่านี้ลงดินสามารถทำได้ไม่ยากนัก
พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ กล่าวถึงนโยบายการจัดการทางเท้า หาบเร่แผงลอยว่า จะต้องให้สิทธิคนเดินเท้าก่อน ยึดประโยชน์เมืองเป็นหลัก แต่ก็จะต้องให้ความสำคัญกับหาบเร่แผงลอยด้วย เพื่อให้ทั้งคนเดินเท้า และร้านค้าสามารถอยู่ร่วมกันได้ จะต้องรักษาความสะอาด จัดระเบียบให้ดี ให้สิทธิคนเดินเท้าก่อนและค่อยแบ่งปันพื้นที่ให้หาบเร่ แผงลอย ซึ่งแต่ละท้องที่อาจจะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคนในพื้นที่
รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางเดินเท้ากับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นระบบเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งทางเท้า หรือตามตรอกซอกซอย ถือเป็นระบบเส้นเลือดฝอย ที่จะต้องนำไปสู่ระบบเส้นเลือดใหญ่ที่ดีเช่น การมีทางเท้าที่กว้างขวาง ประชาชนสามารถขี่จักรยานบนทางเท้า เพื่อไปเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าได้ การมีจุดจอดรถจักรยาน หรือทางจักรยานเลียบด่วนรามอินทราเพื่อเชื่อมไปยังรถไฟฟ้า แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องสอบถามความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย เพราะหลายพื้นที่แม้รถไฟฟ้าจะไปถึงแต่ชีวิตประชาชนไม่เปลี่ยนแปลง เพราะขาดระบบเชื่อมต่อที่ดี
นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพฯ หมายเลข 8 ในนามอิสระ ยังได้กล่าวถึงปัญหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ทำงานไม่เสร็จตามเป้าหรือค้างคาไว้ ว่าผู้รับเหมามี 2 แบบคือผู้รับเหมาของ กทม.เอง กับผู้รับเหมาเอกชน ต้นมองว่ากทม.ต้องเอาจริงเอาจังทั้งในเรื่องของสัญญาที่ต้องรัดกลุ่ม ไม่ใช่สามารถขยายเวลาได้เรื่อยๆ หากมีช่วงไหนที่สามารถปรับได้ก็ต้องปรับตามกฎหมาย และเอาจริงเอาจังกับผู้รับเหมาที่ไม่ได้ทำตามสัญญาโดยขึ้นบัญชีดำไว้เลยส่วนต่างๆที่ล่าช้าอาจเป็นการบั่นทอนคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น พื้นที่ที่กำลังทำรถไฟฟ้า แม้เรื่องรถไฟฟ้าจะเป็นของการรถไฟ แต่กทม.ต้องเข้าไปดูแลพื้นที่โดยรอบให้ประชาชนยังสามารถเดินทางได้สะดวกอยู่ กทม.ต้องไปเข้มงวดกับผู้รับเหมา และอยู่เฉยไม่ได้
สำหรับเรื่องกล้อง CCTV ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการไม่แก้ไขเมื่อมีการชำรุดนั้น ก็ต้องดูทั้งระบบ และภาพรวม ใช้งานได้ทั้งหมดกี่ตัวเชื่อมโยงอย่างไร ขั้นตอนในการขอติดตั้งเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้วเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น การขอข้อมูลต่างๆจะต้องรวดเร็วอาจจะเป็นศูนย์ One Stop Service เทคโนโลยีจะต้องตอบโจทย์คน ไม่ใช่สักแต่ติดเครื่องมือเทคโนโลยีลงไป ถ้าติดแล้วประชาชนไม่รู้สึกว่าได้รับความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นก็ต้องเอาออกไป กล้อง CCTV ต้องลงไปในชุมชนมากขึ้นขอข้อมูลได้ง่ายขึ้น และต้องใช้ในการป้องกัน เทคโนโลยีต้องเลือกใช้ที่เหมาะสม ใช้เพื่อตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ใช้เพื่อการจ่ายเงิน
สำหรับการลงพื้นที่หาเสียงช่วงครึ่งหลังนี้ ก็จะแถลงนโยบายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆปรับไป และก็ค่อยๆทำความเข้าใจ ที่ผ่านมานโยบายต่างๆได้รับ การตอบรับดี และมีการสะท้อนกับมาจากประชาชน ส่วนเรื่องการลงพื้นที่ก็ยังลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
