fbpx
Home
|
ข่าว

“สงคราม” หวั่นระบบสธ.รับไม่ไหวโควิดพุ่งหลังสงกรานต์

Featured Image
“สงคราม” หวั่นนายกฯละเลยระบบสาธารณสุข จนรับไม่ไหว ติดเชื้อพุ่งหลังสงกรานต์ นักวิชาการประเมินอาจถึงวันละแสน

 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความสามารถในการปัญหาโควิดผิดพลาดมาโดยตลอด ล่าสุดประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กกับคนสูงอายุ โดยในปี 2565 ที่ผ่านมามีเด็ก ช่วงอายุ0-4 ปี เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น และพบว่าเด็กเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 100 คน เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 20 คน การแก้ปัญหาแบบขอไปทีของ พล.อ.ประยุทธ์เหมือนการพรากชีวิตลูกจากอกแม่ ช่างอำมหิตมาก

 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเข้าไม่ถึงยารักษา ไม่ว่าจะเป็นยาฟาวิฟิราเวียร์ หรือแม้กระทั่งฟ้าทะลายโจร รวมไปถึงวัคซีน ทั้งๆที่ผู้ติดเชื้อที่เข้าระบบHome Isolation ผู้ป่วยโควิดแยกกักตัวอยู่บ้าน ไม่สามารถที่จะ เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที นโยบายรักษาตัวที่บ้าน ล้มเหลว เพราะรัฐบาลไม่มีการเตรียมความพร้อม ทั้งยารักษาโรคและอาหารสำหรับผู้ติดเชื้อที่ต้องกักตัว และไม่มีแพทย์ไปถามอาการ ผู้ติดเชื้อจำนวนมากต้องอยู่อย่างรอความตายที่บ้านมากกว่าการเข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที

 

นอกจากนี้หลังเทศกาลสงกรานต์นักวิชาการด้านสาธารณสุขประเมินว่าจะมีผู้ติดเชื้อวันละแสนคน อยากถามว่ารัฐบาลมีการเตรียมความในการดูแลประชาชนไว้อย่างไร หวั่นใจว่าระบบสาธารณสุขของไทยจะล้มเหลว เนื่องมาจากผู้ติดเชิ้อจำนวนมาก เตียงรักษา ยารักษา จะไม่พอถึงเวลานี้ขอให้รัฐบาลทบทวนการเข้าถึงการรักษาและวัคซีนใหม่ ควรเร่งกระจายยารักษาให้มากที่สุด

 

รวมทั้งการกระจายศูนย์ฉีดวัคซีนไปยังพื้นที่ชนบทมากขึ้น เพราะการจัดจุดฉีดวัคซีนในพื้นที่เมืองส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคน โดยเฉพาะเด็กกับผู้สูงอายุเข้าไม่ถึงวัคซีน รัฐบาลอย่าเอาความสบายของตัวเองควรยึดประชาชนเป็นหลัก การเข้าถึงยาและวัคซีนคือหัวใจของการต่อสู้โดวิดของประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube