“วิษณุ” มองฝ่ายกฎหมายสภาตีความนายกฯอยู่ 8 ปี เป็นความเห็น หากต้องเป็นที่ยอมรับต้องมาจากศาลรัฐธรรมนูญตีความ ชี้ ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เหตุศาลรธน.ไม่รับ เนื่องจากเป็นกรณีที่เกิดจากการตั้งสมมติฐาน ขอไม่ตอบอยู่ต่อกับนายกฯ ปี 70 หรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ตีความการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะอยู่ยาวไปจนถึงปี 2570 ว่า ยังไม่มีอะไรต้องทำขณะนี้ เพราะปัญหาเป็นการตั้งข้อสงสัยมานานแล้ว และหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องก็มีสิทธิ์ที่จะศึกษาและหาคำตอบเพื่อจะแจ้งหน่วยงานของตน
แต่ที่จะทำให้เกิดแต่ความยอมรับหรือเชื่อถือในสาธารณชนจะต้องมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของรัฐบาลจะต้องพึ่งพากฤษฎีกา ซึ่งก็มีน้ำหนักในระดับหนึ่ง แต่จะทำให้คนยอมรับและยุติต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นสภา มีสิทธิ์ที่จะทำเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการหานายกรัฐมนตรี ซึ่งตนไม่รู้เรื่อง และเรื่องนี้เองก็มาจากสื่อมวลชน
ส่วนทำไมประเด็นดังกล่าวจึงออกมาจากสภาไม่ใช่ทำเนียบรัฐบาลนั้น นายวิษณุ ยังระบุอีกว่า ทุกหน่วยทำในส่วนของตัวเองไป กกต.ก็ทำในส่วนของเขา สภาทำส่วนของสภา รัฐบาลก็ทำส่วนของรัฐบาล แต่คำตอบสุดท้ายคือต้องมาจากศาลรัฐธรรมนูญ และต้องมาในจังหวะเวลาอันเหมาะสม เพราะหากถามไปตอนนี้เขาก็ไม่ตอบ
ส่วนแนวคิดของสภาเป็นแนวคิดเดียวกับนายวิษณุ หรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ เพราะเป็นเรื่องของสภา และความเห็นที่ออกมาจากสภาก็ไม่ใช่ในส่วนของสมาชิกรัฐสภา แต่เป็นความเห็นเฉพาะของฝ่ายกฎหมาย ซึ่งตนก็ทราบเรื่องนี้มานานแล้ว และเป็นแนวทางเดียวกับกฤษฎีกาหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ขอตอบเนื่องจากไม่เคยส่งให้กฤษฎีกา ส่วนจะส่งให้กฤษฎีกาหรือไม่เมื่อถึงจังหวะเหมาะสมจะต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนจะต้องรอให้ถึงเดือนส.ค.เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนมองว่า ต้องให้เวลาที่จะวินิจฉัยออกมา และสามารถใช้การได้ ส่งไปใกล้สิงหาแล้วพอเลยสิงหาคม ว่าจะสงสัยกันอีก พร้อมย้ำว่าการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมีเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว และการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่เพียงส.ส.อย่างเดียว
ทั้งนี้นายวิษณุ ยอมรับว่า ปัญหาคือศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำวินิจฉัย เนื่องจากปัญหายังไม่เกิด และศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำถามที่เกิดจากการตั้งสมมติฐาน แต่หากเรื่องนั้นเกิดขึ้นแล้วอาจสายเกินแก้ จึงต้องมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม ส่วนเงื่อนไขใดจะถือว่าเป็นจังหวะเงื่อนไขสำคัญตนมองว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน
ส่วนทางส่งให้กฤษฎีกาตีความจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่นั้นนายวิษณุ ระบุว่า ใช้เวลาไม่นาน ขอให้อย่าโทษสภา เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่ส.ส หรือส.ว. มีหน้าที่ที่จะทำการบ้านเสนอส่งผู้บังคับบัญชา ส่วนจะถูกหรือจะผิดก็ช่างเพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ขณะที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่าสภาฯไม่น่าจะมาออกหน้าออกตานั้น นายวิษณุระบุว่า ฝ่ายค้านเองก็ตีความของตัวเองอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ
ส่วนที่การที่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ส.ส .จนมีการหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้ว่าทำไมทางสภาจึงออกความเห็นมาเช่นนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกของส.ส. เมื่อส.ส.เลือกขึ้นมาก็จะต้องเลือกอีกในครั้งต่อไป จึงต้องมีการคิดเอาไว้ในส่วนนั้น ตนจึงบอกว่าโจทย์ในเรื่องนี้ หากเอาไว้คุยกันในสังคมลมโชย เกี่ยวกับใครคนนั้นก็อยากรู้ สื่อเองก็อยากรู้ ก็อาจจะหาครูบาอาจารย์นักวิชาการมาแนะนำสื่อก็ได้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นทางการ สภาก็ทำการบ้านในส่วนของเขาเตรียมไว้ พรรคการเมืองก็ทำในส่วนของตัวเตรียมไว้ แต่ในที่สุดคำตอบจริงๆจะต้องมาจากศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้นายวิษณุ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยปรึกษาเรื่องนี้กับตนแต่อย่างใด ส่วนนายกรัฐมนตรีหากดำรงตำแหน่งถึงปี 2570 นายวิษณุจะอยู่ด้วยหรือไม่ ตนไม่ขอตอบคำถามดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
