fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯหารือเอกอัครราชทูตฯ ภูฏาน ผลักดันความร่วมมือ ศก.

Featured Image
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯหารือเอกอัครราชทูตฯ ภูฏาน ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านวิชาการ

นายคินซัง ดอร์จิ (H.E. Mr. Kinzang Dorji) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี? ยังคงรู้สึกประทับใจในการเดินทางเยือนภูฏานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2561 ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และประทับใจการต้อนรับระหว่างการเยือนภูฏานอย่างอบอุ่น หวังว่าเอกอัครราชทูตฯ มองไทยเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง และทำหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือระหว่างไทย-ภูฏานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนความร่วมมือและการทำงานกับเอกอัครราชทูตฯ อย่างเต็มที่

เอกอัครราชทูตฯ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในไทย โดยทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น มีสถาบันกษัตริย์และพุทธศาสนาเป็นจุดเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอในทุกระดับ และประชาชนทั้งสองฝ่ายมีทัศนคติที่ดีต่อกัน โดยชาวภูฏานมองเห็นไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทั้งเชิงธรรมชาติและศาสนาที่สำคัญ หวังว่า ทั้งสองประเทศจะเดินทางไปมาหาสู่มากขึ้น พร้อมยืนยันยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน การส่งออกสินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านวิชาการ และความร่วมมือในกรอบทวิภาคีต่าง ๆ

 

นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯ ยังหารือถึงความร่วมมือทางด้านสาธารณสุข โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณรัฐบาลภูฏานสำหรับไมตรีจิตที่มอบวัคซีน AstraZeneca 150,000 โดส ให้แก่ไทย บนพื้นฐานที่ไทยจะคืนวัคซีนฯ แก่ภูฏาน และขอบคุณรัฐบาลภูฏานที่ได้อำนวยความสะดวกแก่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ในการจัดเที่ยวบินอพยพเพื่อนำชาวไทยในภูฏานกลับประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวชื่นชมรัฐบาลในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุม จนทำให้ไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นนำไปสู่นโยบายเปิดประเทศ ซึ่งภูฏานยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในประเทศหรือพื้นที่ต้นทางที่ผู้เดินทางสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

 

ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีพิจารณายกระดับการค้าและการลงทุนในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์ร่วมกัน โดยภูฏานนับเป็นประเทศที่มีศักยภาพที่นักธุรกิจไทยสามารถไปลงทุนได้ในสาขาการก่อสร้างและธุรกิจบริการ และการท่องเที่ยว หวังว่า ไทยและภูฏานจะร่วมกันหาแนวทางเพื่อสนับสนุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมได้กล่าวเชิญชวนให้ภูฏานใช้ประโยชน์จากโครงการ Duty Free, Quota Free (DFQF) ขององค์การการค้าโลก เพื่อยกระดับความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube