fbpx
Home
|
ข่าว

ศบค.ขอปชช.ฉีดวัคซีน-หวั่นคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่

Featured Image
ศบค. ขอประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ลดอัตราป่วยหนัก เสียชีวิต หวั่นคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ แพร่กระจายไปต่างจังหวัด ติงมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวล็อตใหม่

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึงผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตและมีประวัติได้รับวัคซีนแยกตามกลุ่มอายุข้อมูลตั้งแต่ วันที่ 1 เม.ย.- 7 ต.ค.64 พบ 17,324 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 22.1% ปริมณฑล 36.34% ชายแดนใต้ 4.57% จังหวัดอื่น 36.98% โดยพบว่าผู้เสียชีวิต 60% เป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน 20% เป็นผู้ที่ไม่ได้มีระบบข้อมูลลงในหมอพร้อม 19% ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ขณะที่กลุ่มฉีดวัคซีนครบและยังมีการติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตพบน้อยกว่า 1% จึงเป็นการตอกย้ำ ว่าอย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนจะช่วยลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต จึงขอประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้วัคซีนค่อนข้างมีอย่างเพียงพอ และทางกรมควบคุมโรคก็จัดสรรให้อย่างเพียงพอในแต่ละจังหวัด

ส่วนคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นพบว่ามีลักษณะคล้ายกัน เช่น ตลาดเมืองใหม่ ติดเชื้อสะสม 265 คน มีการกระจายไปยัง 6 คลัสเตอร์ ระบาดไปหลายอำเภอและต่างจังหวัด ทั้งนี้จากการสอบสวนโรคพบกลุ่มก้อนการติดเชื้อจากผู้ค้า รวมทั้งแรงงานเข็นผัก ผลไม้ในตลาด ลักษณะเป็นทั้งคนไทย และแรงงานต่างด้าว ซึ่งกรมควบคุมโรคพยายามติดตามว่าจะเป็นคลัสเตอร์ไปยังจังหวัดอื่นหรือไม่ โดยใน 10 ราย อยู่ใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ลำปาง ปทุมธานีกาญจนบุรี และระยอง

ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า ฝากเน้นย้ำตามที่ ผอ.ศปก.ศบค. ระบุเนื่องจากมีรายงานแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จากการสอบสวนแรงงานที่ทำผิดกฎหมายพบว่า เป็นแรงงานที่เข้ามาล็อตใหม่ รองรับการเปิดประเทศ จึงขอฝากไปยังทุกจังหวัด ศปม. ผู้ว่าราชการจังหวัด และมหาดไทย ช่วยกันเน้นย้ำเนื่องจากเรากำลังเตรียมความพร้อมการผ่อนคลายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันอาจมีประชาชนจำนวนหนึ่งอาจจะทำความผิดและทำให้เกิดการแพร่กระจายการระบาดเป็นกลุ่มก้อน นอกจากนี้ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube