Home
|
ข่าว

“เท่าพิภพ” สมัคร สส.กทม.เขต 33 แทนคนถูกกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงิน

Featured Image

 

 

“เท่าพิภพ” สมัคร สส.กทม.เขต 33 แทนผู้สมัครถูกกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงิน “พรรณิการ์” รับกระทบพรรคแต่ย้ำไม่หักล้างสโลแกน “มีส้มไม่มีเทา” ชี้คือระบบตรวจสอบ ไม่ใช่การเมืองศีลธรรม

 

 

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร เขต 33 พรรคประชาชน เดินทางเข้ายื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง แทนผู้สมัครรายเดิมที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงิน โดยมีนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์กรรมการบริหารพรรคประชาชน และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง ร่วมสังเกตการณ์การสมัคร

 

 

 

 

นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ความกังวลใจส่วนตัวได้หมดไปตั้งแต่เมื่อวาน หลังที่ประชุมไพรมารี่ของสมาชิกพรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตนมาทำหน้าที่นี้ พร้อมย้ำว่า ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งในพื้นที่บางกอกน้อยและบางพลัด แต่เป็นภารกิจของพรรคประชาชนทั้งประเทศ เพื่อทวงคืนความไว้วางใจจากประชาชนกลับมาอีกครั้ง

 

 

 

 

 

นายเท่าพิภพ ระบุว่า ตลอด 7 ปีในฐานะผู้แทน ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของนักการเมืองคือความเชื่อใจจากประชาชน และหากสูญเสียไปแล้วแทบไม่สามารถเรียกคืนได้ เมื่อพรรคเห็นว่าตนเหมาะสมจะทำหน้าที่นี้ตนจึงตัดสินใจทันที ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที พร้อมยืนยันว่าจะพิสูจน์ให้ประชาชนในพื้นที่เห็นว่าพรรคประชาชนไม่ได้ส่งใครลงสมัครก็ได้ แต่เป็นการส่งคนที่พร้อมทำงานจริง และพร้อมนำประสบการณ์เข้าสภาเพื่อร่วมลงมติสนับสนุนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย

 

 

ด้านนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนหลักการทำงานของพรรคประชาชนอย่างชัดเจน เมื่อพบว่าผู้สมัครมีความเกี่ยวข้องกับการทุจริต แม้ยังไม่มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดพรรคก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องใคร และตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้สมัครทันที เพื่อให้ได้ตัวแทนที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน พร้อมย้ำว่าเมื่อพรรคประชาชนมีอำนาจในฐานะรัฐบาล ระบบตรวจสอบภายในพรรคยิ่งต้องเข้มข้นเพื่อให้มั่นใจว่าสส.และรัฐมนตรีจะไม่ทุจริต และทำงานตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง

 

 

นายพิจารณ์ ยังระบุว่า สโลแกน “มีส้มไม่มีเทา” ไม่ใช่เพียงคำหาเสียง แต่เป็นแนวคิดและวิธีการทำงานจริงของพรรค โดยกรณีนี้พรรคดำเนินการเปลี่ยนตัวผู้สมัครภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง
หลังรับทราบข้อมูล พร้อมเปิดเผยว่ากระบวนการคัดสรรผู้สมัครรอบนี้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เครดิตบูโร และเปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์ แต่เนื่องจากข้อจำกัด
ด้านเวลาและการออกหมายจับภายหลัง ทำให้ไม่สามารถรับรู้ได้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบแล้ว พรรคก็ลงมือจัดการทันที

 

 

 

 

ขณะที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อพรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นความเจ็บปวดที่ต้องขอโทษประชาชน แต่ย้ำว่ากรณีนี้ไม่ได้หักล้างคำว่า“มีส้มไม่มีเทา” กลับเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เห็นความหมายที่แท้จริงของสโลแกนดังกล่าว โดยย้ำว่า “มีส้มไม่มีเทา” ไม่ใช่การเมืองศีลธรรม หรือการแบ่งคนดีคนเลว แต่คือการมีระบบตรวจสอบที่ไม่เกรงใจใคร และจัดการทันทีเมื่อพบความเคลือบแคลงสงสัย

 

 

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า ส่วนต่อขยายของ “มีส้มไม่มีเทา” คือ “เมื่อมีเทาเราจัดการทันที” ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พรรคตั้งไว้สูงกว่ากฎหมาย แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะยังถือว่าบริสุทธิ์ตามกฎหมาย
พรรคก็เลือกถอดออกก่อน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชน และหากเป็นรัฐมนตรีก็ต้องออกไปพิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกัน

 

 

นอกจากนี้ พรรคประชาชนยังเตรียมเดินหน้ารณรงค์ในช่วง 40 วันที่เหลือ ด้วยการนำเสนอนโยบายกว่า 200 นโยบาย พร้อมเปิดตัวทีมบริหารที่เป็นมืออาชีพ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
เพื่อให้ประชาชนพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยย้ำว่าหากประชาชนเห็นว่ายังไม่ดีพอ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะตัดสินใจ แต่ขอเพียงเปิดใจรับฟัง ทั้งนี้ ความฝันของพรรคประชาชนคือการเห็นประเทศไทย
ที่โปร่งใส มีการทุจริตน้อยลง มีสิทธิเสรีภาพ สื่อไม่ถูกฟ้องปิดปาก และมีคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกคน ไม่ใช่การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เพื่อส่งต่อประเทศที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube