‘โรนัลโด” ลั่นไฟยังแรง ตั้งเป้ายิงครบ 1,000 ประตู ก่อนอำลาสนาม

แม้อายุจะล่วงเลยเข้าสู่หลัก 40 ปี แต่คำว่า “หมดไฟ” ดูจะยังไม่อยู่ในพจนานุกรมของ คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโลก เมื่อเจ้าตัวยังคงเดินหน้าสร้างผลงานระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเหมาคนเดียวสองประตู พา อัล-นัสเซอร์ เปิดบ้านถล่ม อัล อัคดูด 3-0 ตอกย้ำสถานะดาวยิงตัวความหวัง และขยับสถิติการทำประตูตลอดอาชีพขึ้นเป็น 956 ประตู เข้าใกล้หมุดหมายประวัติศาสตร์ที่ตั้งไว้คือ 1,000 ประตู

ผลงานในเกมดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้ต้นสังกัดเก็บสามแต้มสำคัญ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพร่างกายและความกระหายชัยชนะที่ยังคงเต็มเปี่ยมของยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งหลังคว้ารางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งตะวันออกกลาง จากงาน Globe Soccer Awards ที่ดูไบ โรนัลโดก็ออกมาย้ำชัดถึงอนาคตของตัวเองว่า การเล่นฟุตบอลต่อไปอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไฟในใจยังคงลุกโชนไม่เปลี่ยน

“ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงสนาม ไม่ว่าจะเล่นที่ไหน” โรนัลโดกล่าว พร้อมประกาศเป้าหมายอย่างหนักแน่นว่า ยังต้องการคว้าถ้วยรางวัล และเดินหน้าทำประตูให้ถึงหลัก 1,000 ลูกให้ได้ หากร่างกายยังไม่ทรยศกันไปเสียก่อน

.

ปัจจุบัน โรนัลโดเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับอัล-นัสเซอร์ เป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เขาโลดแล่นบนผืนหญ้าจนถึงอายุ 42 ปี สวนทางกับคำให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยเปรยถึงการแขวนสตั๊ดในอนาคตอันใกล้ และยอมรับว่าคงเป็นวันที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยน้ำตา

อย่างไรก็ตาม เป้าหมาย 1,000 ประตู ดูจะกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้โรนัลโดยังคงยืนหยัดในสนามต่อไป พร้อมท้าทายขีดจำกัดของคำว่า “อายุ” อย่างไม่เกรงกลัว

ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวยิงไปแล้ว 13 ประตูจาก 14 นัด ช่วยให้อัล-นัสเซอร์รั้งตำแหน่งจ่าฝูงซาอุดีโปรลีก พร้อมสถิติส่วนตัวกับสโมสรที่น่าทึ่งถึง 112 ประตูจาก 125 นัด ขณะที่ในระดับทีมชาติและสโมสร โรนัลโดยังคงครองสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ ทีมชาติโปรตุเกส และ เรอัล มาดริด รวมถึงเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ยิงเกิน 100 ประตูให้กับ 4 สโมสรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส และอัล-นัสเซอร์

ปลายทางที่เจ้าตัววางไว้ชัดเจนคือ ฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งน่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในเส้นทางลูกหนังของเขา และหากวันนั้นมาถึงพร้อมกับตัวเลข 1,000 ประตูจริง ชื่อของ “คริสเตียโน โรนัลโด” คงถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกอย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะนักเตะผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อกาลเวลา