100 ล้านดอลลาร์จากฟุตบอลโลก สหรัฐฯ จะเอาเงินไปทำอะไร ?
100 ล้านดอลลาร์จากฟุตบอลโลก สหรัฐอเมริกาจะนำเงินนั่นไปทำอะไรต่อกันแน่ ?
การได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ให้แค่ชื่อเสียงกับสหรัฐฯ แต่ยังทำให้ได้รายได้จาก FIFA โดยคาดการณ์ไว้ราว 100 ล้านดอลลาร์ สู่สหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ (USSF)
เงินก้อนนี้มาจากข้อตกลงที่ FIFA จะแบ่งรายได้ 1% ของรายได้รวมฟุตบอลโลกให้ประเทศเจ้าภาพในครั้งนี้ ได้แก่สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก โดยส่วนใหญ่ ตกเป็นของอเมริกา เพราะจัดแข่งถึง 75% ของแมตช์ทั้งหมด ซึ่งคำถามสำคัญต่อมา คือ เงิน 100 ล้านนี้ อเมริกาจะเอาไปทำอะไรต่อ?
เมื่อเทียบกับฟุตบอลโลกปี 1994 ที่อเมริกาเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว ตอนนั้นทุกคนต่างกังวลว่าจะขาดทุน แต่สุดท้ายกลับประสบความสำเร็จเกินคาด มีคนดูมากเป็นประวัติการณ์ และเหลือเงินราว 60 ล้านดอลลาร์ ที่เมื่อคิดเป็นค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 130 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 4.1 – 4.2 พันล้านบาท ซึ่งเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปเป็นทุนตั้งต้นให้ MLS ลีกฟุตบอลอาชีพของอเมริกา
ต่างจากปี 2026 ตรงที่ FIFA คุมการจัดการเองมากขึ้น ซึ่งทำให้เงินส่วนใหญ่ไหลกลับไปที่ FIFA ส่งผลให้ สหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ ได้เงินน้อยลง เมื่อคิดตามมูลค่าจริง ดังนั้น เงิน 100 ล้านนี้ไม่ใช่เงินตัดสินอนาคตฟุตบอลอเมริกา แต่เป็นเงินสำหรับ “ยกระดับฟุตบอล”
เป้าหมายใหญ่ของสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ คือการให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนเล่นมากที่สุดในประเทศ ซึ่งปัจจุบันชาวอเมริกันเล่นฟุตบอล ประมาณ 15.8 ล้านคน โดยยังคงมีคนเล่นน้อยกว่ากีฬาบาสเกตบอลและกอล์ฟ
ซึ่งสหพันธ์ฯ ตั้งเป้าไว้ให้ฟุตบอลเป็น กีฬาที่คนเล่นมากที่สุดในสหรัฐฯ โดยใช้เงินทุนจากฟุตบอลโลกผ่านโครงการ Soccer Forward ลดปัญหา pay-to-play เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กยากจนเข้าถึงฟุตบอล ทำให้ฟุตบอลเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับชาวอเมริกัน
ด้วยเป้าหมายที่ใหญ่นี้ ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ ยอมรับตรงๆ ว่าเงิน 100 ล้าน ไม่พอ ทำให้ต้องขอความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะการที่จะทำให้ฟุตบอลเข้าถึงคนทั้งประเทศ ต้องใช้เงินระดับ หลายร้อยล้านดอลลาร์ต่อปี
แผนคือสร้างความร่วมมือกับ ลีกอาชีพ โรงเรียน สโมสรเยาวชน รัฐบาลท้องถิ่น แวดวงธุรกิจ และชุมชน ภายใต้แนวคิด “Soccer Everywhere For Everyone” ต้องมีฟุตบอลให้เล่นทุกที่สำหรับทุกคน
โดยสหพันธ์ฯ ศึกษาวิธีทำงานจากแคมเปญใหญ่ๆ อย่างการรณรงค์เมาแล้วขับ พัฒนาต่อไปสู่การได้ข้อสรุปว่า ต้องสื่อสารซ้ำๆ อย่างสม่ำเสมอ และต้องมี “เรื่องเล่า” ที่คนอินและรู้สึกเชื่อมโยง ยกตัวอย่างเช่น โครงการฟุตบอลในโรงเรียนที่รัฐเมน ช่วยเด็กกว่า 200 คนต่อปี ไม่ใช่แค่ได้เตะบอล แต่พฤติกรรมและผลการเรียนก็ดีขึ้น แม้จะดูเป็นจุดเล็กๆ แต่นี้ก็ถือเป็นแบบอย่างของสิ่งที่สหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ อยากขยายให้เกิดทั่วประเทศ
แม้ท้ายที่สุด เงิน 100 ล้านดอลลาร์จากฟุตบอลโลก 2026 อาจไม่ใช่ตัวเลขที่เปลี่ยนชะตาฟุตบอลอเมริกาได้ในทันที แต่เป็น “เชื้อไฟ” สำคัญในการต่อยอดระบบฟุตบอลทั้งประเทศ โดยที่ความสำเร็จอาจไม่ได้วัดจากจำนวนเงินที่ได้รับ
แต่อยู่ที่ว่าสหพันธ์ฯ จะใช้โอกาสนี้สร้างความร่วมมือ ลดอุปสรรคในการเข้าถึง และทำให้เด็กๆ ทั่วประเทศได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลมากขึ้นได้แค่ไหน หากฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่ชาวอเมริกันก็เล่นสนุกได้ และเข้าถึงได้ง่าย ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจไม่ได้ทิ้งไว้แค่ความทรงจำ แต่ทิ้งรากฐานระยะยาวให้ฟุตบอลอเมริกาเติบโตอย่างยั่งยืน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
