Home
|
อาชญากรรม

ผบช.น.แถลงจับ มือยิงหนุ่มดับคาทางด่วน หลังก่อเหตุขับหนีข้ามจังหวัด

Featured Image
น.1 เชื่อผู้ต้องหามีเจตนายิง ตั้งใจยิงโดยมีทักษะการใช้ปืน ขณะขับรถ เตรียมพิจารณาเอาผิดคนช่วย เชื่อผู้ต้องหาตั้งใจหลบหนีตำรวจ หลังอ้างไม่ชินเส้นทาง และพกอีก 1 ทะเบียนติดตัวไว้

 

พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และทีมฝ่ายสืบสวน นำแถลง ผลการจับกุม นายสงกานต์ พานภู่ ผู้ต้องหายิงหนุ่ม บนทางด่วน จนเสียชีวิต ก่อนจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา

 

พลตำรวจโท สยาม บุญสม กล่าวว่า โดยลำดับเหตุการณ์ คือ ผู้ต้องหาได้เดินทางไปดื่มสังสรรค์ กับเพื่อนอีก 4 คน ในย่าน บางใหญ่ จ. นนทบุรี จากนั้นผู้ต้องหาถูกภรรยาโทรตามให้กลับ จนกระทั้งเวลา 02:00 น. ผู้ต้องหาขับรถตระเวนส่งเพื่อนในย่านบางใหญ่และงามวงศ์วาน ก่อนขึ้นท่างด่วนจากถนนงามวงวาศ์วาน จนกระทั้งก่อนเข้าด่านเก็บเงินประชาชื่น ได้พบกับรถผู้ตาย ก่อนมีการขับปาดกัน เนื่องจาก ผู้ต้องหาไม่ชำนาญเส้นทางและมีการเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน ก่อนที่จะเข้าช่องเก็บเงินข้างกัน

 

หลังจากผ่านด่านเก็บเงินมาแล้ว รถเก๋งได้มีการลดกระจกตลอดเวลา ตนเองจึงขับมาเทียบแล้วลดกระลง ก่อนเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นผู้ต้องหาได้หยิบอาวุธปืนที่อนู่ในรถขึ้นมาด้วยมือขวา โดยใช้มือซ้ายจับพวงมาลัย แล้วโน้มตัวไปยิงปาดผ่านช่องกระจกของรถตัวเอง ไปยังรถเก๋งคู่กรณี

 

โดยทำการยิง 3 นัด ทำให้กระสุนเข้าที่ร่าฃผู้ตาย 2 นัด ส่วนอีก 1 นัดนั้น กระสุนไปโดนรถที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย ผู้ต้องหาก็ได้ขับรถหนี โดยจุดแรกได้ขับลงทางด่วนพหลโยธิน และเข้าซอยซอยหนึ่งเพื่อทำการเปลี่ยนทะเบียนรถ และหลบหนีไปยังจ.นครปฐม ก่อนจะจอดรถทิ้งไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม และนำปลอกกระสุนปืน พร้อมซองปืน และปืน ไปทิ้งที่ถังขยะหน้า โรงแรม

 

จากนั้นได้ทำการเรียกรถแท็กซี่เพื่อหลบหนีไปลงที่ อ.เชียงราก จ.ปทุมธานี จากนั้นได้จะเรียกแท็กซี่อีกคันไป จ.ระยอง ก่อนที่จะเปลี่ยนใจให้ไปส่งที่ จ.ตราด เพื่อไปยังเกาะช้าง พร้อมประสานลูกเมียให้ไปรอเจอกันที่ท่าขึ้นเรือเกาะช้าง ก่อนที่จะข้ามไปยังเกาะช้าง

 

โดยหลังจากที่ตัวผู้ต้องหาข้ามไปยังเกาะช้างแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่สะพานคึกฤทธิ์ ภายหลังการจับกุม ได้มีการสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ยิงผู้ตาย แต่ไม่ได้ตั้งใจ

 

เนื่องจากไม่ได้มีการรู้จักกันมาก่อนเพียงแค่ บันดาลโทสะจากการการขับรถปาดหน้า แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีเจตนาจากพยานหลักฐาน และจากการยิงถึง 3 นัด บ่งบอกว่าได้เข้าข่ายเอาชีวิตแล้ว และจากแนวทางการสอบสวน ก็พบว่าทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันจริง และได้มาพบกันก่อนเข้าทางด่วนประชาชื่น

 

นอกจากนี้ยังพบว่าภายในรถคันก่อเหตุมีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ซึ่งจากการตรวจสอบพยายหลักฐานกล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ ที่ผู้ต้องหาไป ในช่วงระหว่างการหลบหนี กล้องสามารถจับภาพผู้ต้อฃหาได้เพียงผู้เดียว
ซึ่งการลงมือยิงเชื่อว่าผู้ต้องหาทำเพียงคนเดียว

 

เนื่องจากผู้ต้องหามีทักษะในการยิงปืน เพราะมีการฝึกซ้อมที่สนามยิงใน จ. ชลบุรี บ่อยครั้ง ประกอบกับการจำลองเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะผู้ต้องหามีรูปร่างสูงเกือบ 180 ซม. ซึ่งสอดคล้อง และสามารถทำได้จริง

 

ส่วนอาวุธปืนนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพราะเบื้องต้นพลว่าปืน มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้จดทะเบียนนั้นได้เสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเรื่องทะเบียนรถที่มีทะเบียนอีก 1 ป้าย ติดอยู่ในรถนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า เพิ่งซื้อรถมาอยู่ระหว่างการค้างค่าชำระ หลบหนีไฟท์แนท จึงมีป้ายทะเบียนติดไว้ ในการหลบหนีไฟท์แนท

 

แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าเจ้าตัวมีป้ายไว้แล้ว เพราะอาจหลบหนีหมายจับคดีพยายามฆ่า เมื่อปี 67 ที่ จ.ชลบุรี

 

ประเด็นที่ว่าทำไมผู้ต้องหาขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่ จ. นครปฐม ทั้งที่ไม่ชำนาญทาง ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ชำนาญทางจึงมีการขับวนๆ จนเจอโรงแรมดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่ต้องการหลบหนีและเพิ่มความยากในการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรณีบุคคลที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจรณาดำเนินคดี

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube