สะเทือนวงการ! “มัดหมี่ พิมดาว” เผยถูกหลอกทำบุญสูญเงิน8ล้าน “ไฮโซ ต.”มีส่วนเอี่ยว
สะเทือนวงการ! “มัดหมี่ พิมดาว” แชร์ประสบการณ์ ถูกหลอกทำบุญสูญเงิน8ล้าน “ไฮโซ ต.”มีส่วนเอี่ยว เพราะรู้จักเจ้าสำนัก
เรียกว่าทำเอาชาวเน็ตตาโตหูผึ่งกันอีกครั้ง เมื่อ ทางด้าน “มัดหมี่ พิมดาว” ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ ทำบุญที่สูญเงิน8ล้าน ทั้งนี้ยังไม่พอเพราะมีไฮโซ ต. และภรรยา ที่เคยตกเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ถึงเรื่องเงิน เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทางด้าน “มัดหมี่” ได้เล่าเหตุการณ์ประสบการณ์ทั้งหมดโพสต์ลงไอจีสตอรี่ ซี่งมีข้อความว่า
“ประสบการณ์ส่วนตัวของข้าพเจ้า
- ในปี 2560 ข้าพเจ้าอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง จากผลกระทบทางจิตใจของการทำงานด้านการแสดง มีอาการนอนไม่หลับต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ และอยู่ในสภาวะที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดในชีวิต
- ข้าพเจ้าได้พบอาจารย์ ต. จากการแนะนำของรุ่นพี่ โดยได้รับการบอกว่าเป็นครูทางจิตวิญญาณที่สามารถช่วยเหลือได้ในเวลานั้น ข้าพเจ้าไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ นอกจากการพ้นจากความทุกข์ทางใจ
- คำสอนในช่วงแรกเกี่ยวข้องกับกรรม อดีตชาติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และการแก้ไขกรรม โดยอธิบายควบคู่กับหลักพุทธศาสนา ภาพลักษณ์ของอาจารย์และภรรยาในเวลานั้นดูสมถะ เรียบง่าย และมีเหตุผล ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความศรัทธาและความไว้วางใจ
- กลุ่มปฏิบัติธรรมในช่วงแรกเป็นกลุ่มเล็ก มีผู้เข้าร่วมไม่ถึง 15 คน รวมถึงเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบ ความหวัง และความเชื่อว่าทุกคนมาด้วยเจตนาที่ดี
- เมื่อเวลาผ่านไป การทำบุญและการ “ลดละกรรม” เริ่มถูกอธิบายว่าเป็นหนทางสำคัญในการพ้นทุกข์ ทั้งด้านสุขภาพชีวิต และความสัมพันธ์ โดยมีการกล่าวถึงเจ้ากรรมนายเวร และผลกระทบหากไม่ดำเนินการแก้ไข
- จากเดิมที่แนะนำให้ทำบุญผ่านมูลนิธิทั่วไป ภายหลังเริ่มมีการชักชวนให้โอนเงินเข้าสำนักโดยตรง โดยอธิบายว่าเพื่อรองรับการปฏิบัติธรรมที่ขยายตัว ทั้งเรื่องสถานที่ อาหาร และการจัดการต่างๆ
- ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ข้าพเจ้าได้ทำบุญและ “ลดละกรรม” รวมเป็นเงินมากกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการทำงานสุจริต และข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าจะกลายเป็นความเสียหายเช่นในวันนี้
- ในช่วงปีที่สองของการปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าได้รู้จักกับไฮโซ ต. และภรรยา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับอาจารย์ ต. มาก่อน และเริ่มมีบทบาทในกลุ่มปฏิบัติธรรมมากขึ้น
- ภายหลังจากไฮโซ ต. เข้ามามีบทบาท ข้าพเจ้าเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายประการ ทั้งในบรรยากาศ คำสอนและรูปแบบการดำเนินชีวิต จากที่เคยเน้นความสมถะ เรียบง่าย เริ่มปรากฏการใช้ชีวิตที่หรูหรามากขึ้น เช่น การใช้สินค้าแบรนด์เนม การซื้อรถใหม่ และที่อยู่อาศัยใหม่
- ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนผู้ปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกลุ่มเล็กเป็นหลายร้อยคน และเริ่มมีการวางแผนพัฒนาสถานปฏิบัติธรรมในลักษณะที่มีองค์ประกอบเชิงพาณิชย์ แตกต่างจากเจตนารมณ์เดิมที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
- แม้ครอบครัวและคนใกล้ชิดจะมีข้อทักท้วงว่าบางสิ่งเริ่มผิดแปลกไปจากหลักพุทธศาสนา ข้าพเจ้ายังคงยึดมั่นในความศรัทธาและปกป้องสำนักด้วยความเชื่อใจ จนส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัวหลายครั้ง
- ภายหลัง ข้าพเจ้าได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงบางประการ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยรับทราบมาก่อน และขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับภาพของครูทางจิตวิญญาณที่ข้าพเจ้าเคยศรัทธา
- เหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลให้ข้าพเจ้า สูญเสียทั้งทรัพย์สินความเชื่อใจ และความรู้สึกปลอดภัยทางจิตวิญญาณ จนต้องกลับมาตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อการใช้ศรัทธาโดยขาดการตรวจสอบ
- ข้าพเจ้าออกมาแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้ มิได้มีเจตนากล่าวหา ฟันธงความผิด หรือชี้นำผลทางคดีของบุคคลใด แต่เพื่อสะท้อนประสบการณ์ตรง และเป็นอุทาหรณ์ให้สังคมใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
หากเรื่องราวของข้าพเจ้า จะช่วยให้ใครสักคนหยุดคิด ตั้งคำถาม หรือปกป้องตนเองได้ทันเวลา เมื่อศรัทธาและเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง การออกมาพูดในครั้งนี้ก็มีความหมายแล้ว
พิมดาว พานิชสมัย
๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๘”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
