Home
|
ข่าว

กต.โต้กัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารไทยตาย 5,000 ไม่จริง

Featured Image
กต.โต้ข่าวกัมพูชาใช้ AI ปล่อยเฟกนิวส์ อ้างทหารไทยตาย 5,000 นาย ยัน ไม่เป็นความจริง ชี้ ไทยให้คุณค่าวีรชนมากกว่า พร้อมแจง “รมต.สีหศักดิ์” ทำหนังสือถึง OHCHR หลังกัมพูชาปิดด่าน ห้ามคนไทยกลับประเทศ ขัดสิทธิมนุษยชน

 

นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญสูงสุดกับการคุ้มครองคนไทยในกัมพูชา หลังฝ่ายกัมพูชาประกาศระงับการเดินทางข้ามแดนทางบกตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

นายนิกรเดช เปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เพื่อชี้แจงว่ามาตรการปิดด่านไม่อนุญาตให้คนไทยเดินทางกลับประเทศของฝ่ายกัมพูชา เข้าข่ายละเมิดกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเรือนในภาวะสงคราม และพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเวียนนา

 

กระทรวงการต่างประเทศ จึงได้เรียกร้องให้ OHCHR กำชับให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำว่าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนเป็นภารกิจเร่งด่วน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง การประสานที่พักชั่วคราว การจัดหาตั๋วเครื่องบิน และการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาเพื่อออกใบอนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ได้แจ้งเตือนคนไทยให้เฝ้าระวังความปลอดภัย และแนะนำให้เดินทางกลับประเทศ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในพื้นที่เมืองปอยเปต ซึ่งมีจุดบริการกงสุล คนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับทางบกไม่สามารถทำได้ เนื่องจากถูกฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธ จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ลงทะเบียนเดินทางกลับทางอากาศแทน

 

ในส่วนการจัดเที่ยวบินพิเศษ นายนิกรเดช ชี้แจงว่า ขณะนี้สายการบินพาณิชย์ตามปกติยังมีที่นั่งเพียงพอ จึงใช้เป็นทางเลือกหลัก เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์มีความจำเป็น กระทรวงการต่างประเทศก็พร้อมดำเนินการจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำทันที

 

สำหรับสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารตามแนวชายแดน นายนิกรเดช ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดในเมืองปอยเปต

 

ซึ่งไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป้าหมายของปฏิบัติการทางอากาศของไทยคือคลังอาวุธทางทหารที่ผ่านการยืนยันแล้ว และทุกภารกิจดำเนินการภายใต้การกลั่นกรองอย่างรอบคอบ คำนึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อพลเรือนอย่างเคร่งครัด

 

ในทางตรงกันข้าม ไทยมีข้อมูลยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชามีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์เข้าใกล้ชุมชนพลเรือน ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อประชาชนและขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังปฏิเสธกรณีสื่อกัมพูชารายงานว่ามีทหารไทยเสียชีวิตกว่า 5,000 นาย พร้อมเผยแพร่ภาพที่สร้างด้วยเทคโนโลยี AI โดยยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมทั้งหมด จากการตรวจสอบข้อมูลของกองทัพไทยอย่างละเอียด ฝ่ายไทยให้คุณค่าและเกียรติแก่ชีวิตของวีรชนทุกนาย มีการดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่ไม่ได้ให้คุณค่าต่อทหารผู้เสียสละอย่างแท้จริง

 

ในประเด็นการเจรจาเพื่อหยุดยิง นายนิกรเดช ระบุว่า ขึ้นอยู่กับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา โดยไทยยึดหลักการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมย้ำว่าไทยปรารถนาสันติภาพ แต่ต้องเป็นสันติภาพที่ตั้งอยู่บนความปลอดภัยและความยั่งยืน

 

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนจริง โดยจีนแสดงความห่วงใยและความปรารถนาให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายอย่างสงบ พร้อมสนับสนุนการเจรจา

 

 

 

โดยไทยได้ย้ำเงื่อนไขสำคัญ คือการหยุดคุกคามจากฝ่ายกัมพูชา การพิสูจน์การหยุดปฏิบัติการทางทหารอย่างแท้จริง ความร่วมมือด้านทุ่นระเบิด และมาตรการลดความตึงเครียดในพื้นที่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube