ตร.สรุปสำนวนคดี นัท ปง จบชีวิตตัวเอง!
ตร.ภาค 1 แถลงสรุปคดี หลักฐาน ผลสอบพยาน และวงจรปิด ชี้ชัด “นัท ปง” นักข่าวชื่อดัง จบชีวิตตัวเอง คดีนี้ มีคนถูกแจ้งข้อหาคนเดียว คือ “กิตติ” คนจัดหาสารไซยาไนด์
วันนี้ (13 ธ.ค.68) ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พลตำรวจเอกวัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.เดชระพี คงดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน 1 ร่วมกันแถลงสรุปคดี การเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่เสียชีวิตบ้านพักย่านบางกรวย เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า เมื่อดูไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ คือเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ตำรวจสภ. บางกรวยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตบ้านพัก ตำรวจจึงเดินทางพร้อมกับแพทย์เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบญาติที่แจ้งเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตอาจจะนอนหลับและเสียชีวิตไป จึงได้มีการส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิสิตวิทยาศาสตร์ โดยในวันที่ 30 พ.ย. เมื่อพนักงานสอบสวน ออกจากที่เกิดเหตุแล้ว ญาติพี่น้องได้เข้ามาที่บ้าน และพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวเรื่อยมาจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม และผู้ใกล้ชิดผู้เสียชีวิต สงสัยว่า ในบ้านนั้นมีสารไซยาไนด์ จึงส่งไปตรวจพิสูจน์ ก็ยืนยันว่า เป็นสารไซยาไนด์
ขณะเดียวกัน บุคคลใกล้ชิดได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไปด้วย หลังจากเรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้นมา จากมือถือของผู้เสียชีวิต และปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชน ว่า ผู้ตายได้รับสารไซยาไนด์จนถึงแก่ความตาย
จากนั้นในวันที่ 6 ธ.ค. ตำรวจภูธรภาค 1 และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ประชุมทีมงานกัน แบ่งหน้าที่กันทำ ร่วมพิจารณาตั้งแต่ภาพที่ตำรวจตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่า วันเกิดเหตุ มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุบ้าง จนทราบว่า ในวันเกิดเหตุมีพยานในเหตุการณ์อีก 4 ปาก และมีพยานอีก 1 ปากที่ เข้ามารับสารไซยาไนด์ ออกไปจากบ้าน ตำรวจจึงเรียกสอบปากคำพยาน ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
จากนั้นหลังจากสอบปากคำพยานทั้ง 5 ปากแล้ว พนักงานสอบสวนทราบว่า มีอีก 1 บุคคลที่ นำสารไซยาไนด์ มาให้กับ นายณัฐวุฒิ
ในวันที่ 8 ธ.ค. ตำรวจจึงเรียกพยานคนดังกล่าว คือ นายกิตติ มาสอบปากคำ โดย นายกิตติ ให้การว่า นำสารไซยาไนด์ มามอบให้กับ นายณัฐวุฒิ เมื่อปลายเดือน ตุลาคม ก่อนที่ตำรวจ จะพานายกิตติ ไปชี้จุดที่มาของสารไซยาไนด์
ในวันที่ 8 ธ.ค. ไอซ์ สารวัตร นำสารไซยาไนด์ ที่หยิบไปจากบ้านของ ผู้เสียชีวิต เพื่อเอาไปตรวจพิสูจน์ พร้อมผลตรวจ มามอบให้กับ พนักงานสอบสวน
ในวันที่ 10 ธ.ค. คณะพนักงานสอบสวน ประชุม ซักซ้อมเตรียมแผนที่จะเข้าไปตรวจบ้านของผู้เสียชีวิต ในวันที่ 11 ธ.ค.
จากนั้นในวันที่ 11 ธ.ค.ทีมพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ จุดเกิดเหตุ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ตรวจหาพยานหลักฐาน ตรวจลายนิ้วมือแฝง ตรวจกล้องวงจรปิด ซึ่งจากการตรวจค้นพบว่า บ้านที่เกิดเหตุ มีวงจรปิดหลายตัว พบสารไซยาไนด์ อยู่ในจุดเดิมตามที่เราได้มาจากกล้องวงจรปิด ก่อนหน้านี้
หลังจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ แล้ว ทีมสืบสวน สอบสวนได้ประมวลเหตุการณ์ต่างๆ นำภาพวงจรปิด และ พยานที่ให้การสอดคล้อง และเชิญ พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต มาร่วมกันดูภาพที่ปรากฎ สิ่งต่างๆ ที่ปรากฎออกมาเป็นที่แน่ชัดว่า เป็นการอัตวินิบาตกรรม และครอบครัว ได้รับทราบข้อมูลของตำรวจและตรวจสอบดูแล้ว ไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนคดีนี้ มีผู้ถูกแจ้งข้อหาเพียงคนเดียว คือ นายกิตติ คนที่นำสารไซยาไนด์ มามอบให้ นายณัฐวุฒิ ส่วนการที่ มีบุคคลอื่น นำสารไซยาไนด์ ออกไปตรวจ นั้น ในขณะนี้ ยังไม่มีการพิจารณาดำเนินคดี เพราะดูที่เจตนาเป็นหลัก
ทางด้าน พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน 1 เปิดเผยว่า หลังจากผลพิสูจน์ศพออกมาว่า ผู้ตายได้รับสารไซยาไนด์ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และ พบว่า มีคนนำสารดังกล่าวมามอบให้ กับนายณัฐวุฒิ พิสูจน์หลักฐาน จึงนำสารไซยาไนด์ ที่เก็บได้จากการจุดเกิดเหตุ จากร่างกายของผู้เสียชีวิต และ จากจุดที่นายกิตติ นำชี้ เอามาตรวจวิเคราะห์ตรวจยืนยัน พบว่าเป็นสารไซยาไนด์ชนิดเดียวกัน
ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า ในการตรวจพิสูจน์บ้านของผู้ตาย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีการตรวจใน 4 ส่วน คือ ตรวจเคมีพิษวิทยา ตรวจลายนิ้วมือแฝง ตรวจดีเอ็นเอ และตรวจคอมพิวเตอร์คือกล้องวงจรปิด โดย ภาพวงจรปิด ระบุชัดว่า ผู้เสียชีวิต เดินไปหยิบซองใส่สารไซยาไนด์ เดินออกมา 40 วินาที แล้วนำซองไปเก็บไว้ที่เดิม
หลังจากนั้นก็ไม่มีใคร เข้าไปหยิบซองดังกล่าวอีก แสดงให้เห็นชัดว่า ผู้เสียชีวิต เสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ และเมื่อเสียชีวิตไปแล้วไม่มีใครไปสัมผัสซองไซยาไนด์อีก ก็ปิดประเด็นเรื่องที่คนอื่นจะนำสารนี้ ไปทำให้นายณัฐวุฒิ เสียชีวิตได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





