Home
|
ภูมิภาค

ชาวบ้านศรีสะเกษ จี้ถามรัฐบาล ยุบสภากลางวิกฤตสงคราม

Featured Image
ศรีสะเกษ ชายแดนเดือดต่อเนื่อง ชาวบ้านกว่าแสนคนอพยพหนีตาย จี้ถามรัฐบาลเหตุยุบสภากลางวิกฤต

 

สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดศรีสะเกษ ยังเกิดการปะทะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ส่งผลให้พื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ขณะเดียวกันการประกาศยุบสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าความขัดแย้งอาจยืดเยื้อยาวนานเพียงใด

 

ที่ศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ชาวบ้านจำนวนมากติดตามข่าวสถานการณ์แนวชายแดนควบคู่กับคำถามถึงเหตุผลของการยุบสภา ในช่วงที่ประเทศเผชิญความเปราะบางด้านความมั่นคง

 

นางพันธ์ ไทยสุวรรณ อายุ 59 ปี ผู้พิการทางสายตา ซึ่งอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ฯ เป็นวันที่ 5 เผยว่า อยากกลับบ้านอย่างมาก แต่เมื่อสอบถามผู้ใหญ่บ้านยังพบว่าเสียงปืนดังต่อเนื่อง จึงไม่กล้าเดินทางกลับ และยิ่งกังวลหลังมีการยุบสภาว่าจะส่งผลให้สถานการณ์ยืดเยื้อหรือไม่

 

ด้านนางเดือนนภา ศรีวงษ์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านชายแดนอีกคน กล่าวตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าเหตุใดต้องยุบสภาในช่วงที่เกิดการปะทะต่อเนื่อง เธอมองว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ความรุนแรง ตามแนวชายแดนยาวนานขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเร่งหาทางยุติความขัดแย้งเพื่อให้ชาวบ้านได้กลับไปประกอบอาชีพตามปกติ

 

นายเอกพล ทองดี อายุ 48 ปี ระบุว่า การยุบสภาครั้งนี้เหมือนรัฐบาล “หนีปัญหา” และอาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคต

 

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับทุกหน่วยงานดูแลความเป็นอยู่ของผู้พักพิงให้ครบถ้วน ไม่ให้ขาดแคลนสิ่งจำเป็น

 

เบื้องต้นพบความเสียหายจากการปะทะ ได้แก่ บ้านเรือนประชาชนเสียหายบางส่วน 6 หลัง และสถานที่ราชการ 1 แห่ง ขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษมีผู้อพยพแล้วกว่า 107,056 คน สถานการณ์ยังคงอยู่ในระดับเฝ้าระวังสูง โดยจังหวัดและหน่วยงานความมั่นคงยังคงเร่งประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง.

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube