รัฐสภา ถกต่อแก้ รธน.วาระ2 ประเด็น ที่มา ส.ส.ร. ยังเดือด
รัฐสภาลุยต่อวาระ 2 แก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประเด็น ที่มา ส.ส.ร. ยังเดือด หลายฝ่ายค้านตัดอำนาจประชาชน
การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันนี้ (11 ธ.ค. 68) จะเริ่มเวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. ในวาระที่ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อคืนวาน ที่ประชุมประชุมยาวจนถึง 23.30 น. ก่อนปิดประชุม โดยพิจารณามาถึงมาตรา 256/20 และจะเริ่มต่อที่มาตรา 256/21 ในวันนี้
บรรยากาศการอภิปรายเมื่อวานเป็นไปอย่างเข้มข้น โดย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ประธานกรรมาธิการ ชี้แจงว่า การแก้ไขเป็นไปตามหลักการและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้มีคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน ที่รัฐสภาคัดเลือกตามสูตร “20 หยิบ 1” ต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จภายใน 360 วัน พร้อมตั้ง คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นประชาชน 35 คน ทำหน้าที่ลงพื้นที่ รับฟังเสียงประชาชน และสื่อสารความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดโดยสมาชิกหลายฝ่ายยังคงสงวนความเห็น โดยเฉพาะในประเด็น “ที่มาของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกวิจารณ์ว่าตัดอำนาจประชาชน
ด้านน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล จากพรรคเพื่อไทย เสนอให้เพิ่มกลไกการร่างรัฐธรรมนูญเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ส.ส.ร., คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการรับฟังความเห็น พร้อมเสนอให้ ส.ส.ร. 151 คนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความชอบธรรมและลดอิทธิพลเสียงข้างมากในรัฐสภา
ขณะ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า การให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก ส.ส.ร. แทนประชาชน เป็นการขัดกับหลักการของร่างที่ใช้เป็นร่างหลักซึ่งเสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ และจะเป็นการบิดเบือนเจตจำนงของประชาชน พร้อมวิจารณ์ว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมาออกแบบให้ประชาชนไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง
สอดคล้องกับ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ที่คัดค้านการตัดสิทธิประชาชนเลือก ส.ส.ร. และการตัดสภาที่ปรึกษาการร่างรัฐธรรมนูญ โดยมองว่าการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เหมือน “ยกคูหาเลือกตั้งหนีประชาชน”
ส่วนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า กระบวนการต้องยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด พร้อมสนับสนุนการใช้สูตร “20 หยิบ 1” เพื่อลดการกินรวบทางการเมือง และเสนอให้ยกเลิกบทล็อคเสียง ส.ว. 1 ใน 3 เพื่อเปิดทางให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตได้ง่ายขึ้น
สำหรับนายวิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งข้อสังเกตถึงการกำหนดให้รัฐสภาคัดเลือกผู้ยกร่างทั้งหมด อาจทำให้สูญเสียงบประมาณเกินจำเป็น และไม่อาจตอบได้ว่ารัฐธรรมนูญใหม่ จะมาจากประชาชนจริงหรือไม่ พร้อมเตือนว่าสาระในมาตรา 256/3 อาจถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้อีก
จากนั้น นางอังคณา นีละไพจิตร เสนอให้ตัดเงื่อนไข “ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด” ออกจากคุณสมบัติผู้สมัครเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยไร้สัญชาติหรือคนไทย พลัดถิ่นที่เพิ่งได้รับสัญชาติ ได้มีสิทธิเข้าร่วมกระบวนการด้วย
แม้อภิปรายเข้มข้น แต่บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 256/1 ซึ่งกำหนด “ที่มา” ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้มาจากการเลือกโดยรัฐสภาตามสูตร “20 หยิบ 1” ถือเป็นก้าวสำคัญของวาระที่ 2 ก่อนเข้าสู่การพิจารณารายมาตราที่เหลือต่อในวันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





