Home
|
ข่าว

“สีหศักดิ์” ชี้แจงทูตนานาชาติ ยืนยัน กัมพูชายิงก่อน

Featured Image
“สีหศักดิ์” ชี้แจงทูตนานาชาติยัน กัมพูชา ยิงก่อน ไทยโจมตีทางอากาศเพื่อปกป้องตนเอง เหตุพื้นที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด เรียกทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯ เข้าพบในฐานะประเทศสักขีพยาน เวียนหนังสือถึงอาเซียน-เลขาฯ UN แล้ว

 

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายสรุปแก่คณะทูต เรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยนายสีหศักดิ์ เปิดเผยช่วงต้นของการบรรยายสรุป ย้ำท่าทีของประเทศไทย

 

พร้อมระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาเริ่มโจมตีไทยก่อน โดยเมื่อวันที่ (7 ธ.ค.68) ทหารกัมพูชาเริ่มเปิดฉากโจมตีทหารไทย บริเวณภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยได้รับบาดบาดเจ็บ 2 นาย จากนั้นก็มีการยิงต่อเนื่อง และในช่วงเช้าวันนี้ เวลา 05.05 น. กัมพูชายิงมาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการปะทะที่รุนแรง

 

"สีหศักดิ์" ชี้แจงทูตนานาชาติ ยืนยัน กัมพูชายิงก่อน

 

ภายหลังการประชุม นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประทับหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวานนี้ นายสีหศักดิ์ได้มีการบัญญัติสรุปคณะทูต และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ล่าสุดโดยมีเอกอัครราชทูต 58 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ รวม 73 คน โดยมี 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

 

ประเด็นแรก สถานการณ์ตอนนี้แสดงให้เห็นการกระทำของกัมพูชาแบบเดิม ๆ เป็นแทคติค รุกรานฝ่ายไทยก่อนและปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ เป็นการยั่วยุโดยการลอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา แม้กัมพูชาจะพยายามสร้างภาพการเรียกร้องสันติภาพ และพูดว่าใช้การยับยั้งชั่งใจ แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นฝ่ายยุยง ยั่วยุ และรุกรานก่อน

 

ประเด็นที่สอง ไทยมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนไทย ดังนั้นจำเป็นต้องดำเนินการทางทหารจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดน

 

ประเด็นที่สาม สาธารณชนไทยหมดความอดทนอดกลั้นต่อกัมพูชาที่ไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของไทย รวมถึงกรณีที่คนไทยต้องเผชิญภัยคุกคามครั้งแล้วครั้งเล่า เราจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยและประชาชนของเราจนกว่า อธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนจะไม่ถูกคุกคาม

 

ประเด็นที่สี่ ท่าทีของไทยและการปฎิบัติการทางทหาร ฃจะดำเนินไปจนกว่ากัมพูชาจะเปลี่ยนแปลงจุดยืน เช่น การเดินบนเส้นทางสันติภาพอย่างแท้จริง

 

ประเด็นที่ห้า กัมพูชาเป็นฝ่ายเหยียบย่ำข้อตกลงหยุดยิงและถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration)

 

สำหรับประเด็นที่นายสีหศักดิ์ ได้บรรยายสรุป มีการชี้แจงเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยไล่เรียงไทม์ไลน์ พบว่า มีหลักฐานเป็นประจักษ์ชัดเจนประมาณ 14 ครั้ง ว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มปะทะและเปิดฉากยิงมาที่ฝ่ายไทยก่อน เริ่มจากภูผาเหล็ก จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งไทยได้มีการส่งหนังสือไปที่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว

 

ต่อมาในช่วงเช้ามืดวันที่ 8 ธันวาคม มีการปะทะได้หลายพื้นที่โดยทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาฝั่งไทยต่อเนื่องและมีรายงานว่ากัมพูชาได้เคลื่อนย้ายอาวุธยิงระยะไกลเข้ามาในพื้นที่ มีทหารไทยถูกยิงเสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บ 8 ราย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียดังกล่าวและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บ

 

ล่าสุด ฝ่ายกัมพูชายิงขีปนาวุธชนิด BMN-21 ต่อพลเรือนฝ่ายไทย สื่อต่างประเทศมีการรายงานข่าวการโจมตีทางอากาศของฝ่ายไทย สาเหตุที่ไทยต้องใช้การโจมตีทางอากาศ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยให้ดำเนินการทางอื่นได้ พื้นที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด จึงขอย้ำว่าการปฏิบัติการทางทหารของไทย เป็นไปเพื่อการปกป้องตนเอง หลังจากที่เราถูกโจมตีก่อน เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะข้อ 51 ของกฎหมายสหประชาชาติ กฎหมายการใช้กำลัง ตามหลักความจำเป็น ตามหลักสัดส่วนอย่างเคร่งครัด

 

 

เมื่อคำนึงถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามยกระดับความรุนแรงและเสี่ยงต่อการสูญเสียในอนาคต ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ตามหลักการข้างต้น โดยทุกปฏิบัติการของไทยจำกัดเป้าหมายทางทหารและไม่ให้กระทบต่อพลเรือน

 

นายสีหศักดิ์ ยังย้ำว่า การดำเนินการของไทยเป็นไปเพื่อตอบโต้การถูกโจมตีก่อน เป็นไปตามกฎการใช้กำลัง กฎหมายระหว่างประเทศและเป็นไปอย่างได้สัดส่วน รวมถึงมีเป้าหมายทางการทหารเท่านั้น ฝ่ายไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการเปิดฉากยิงฝ่ายไทยกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าทหารไทยเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย อีกทั้งยังเป็นภัยต่อความมั่นคง พลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องอพยพ เป็นการละเมิดข้อตกลงทุกอย่างชัดเจน

 

ส่วนผลกระทบต่อการโจมตี คนไทยได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พลเรือนผู้บริสุทธิ์ใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ราว 400,000 คนต้องอพยพไปยังพื้นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

 

ทั้งนี้ไทยไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียอย่างเช่นที่เคยเกิดมาแล้ว ความตึงเครียดจากการประทะในขณะนี้ส่งผลให้โรงเรียนกว่า 600 แห่งใน 5 จังหวัดชายแดนและโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว ซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ กระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานและบริการที่สำคัญกับประชาชนคนไทย

 

นอกจากนี้ นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนโดยฝ่ายกัมพูชา นอกเหนือจากการละเมิดข้อตกลงและโจมตีไทยไร้มนุษยธรรม การให้ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนโดยไม่มีหลักฐานรองรับของฝ่ายกัมพูชา เป็นการสร้างสถานการณ์โดยไตร่ตรองไว้ก่อนและมีเหตุจูงใจทางการเมือง

 

ซึ่งเป็นรูปแบบซ้ำ ๆ ที่กัมพูชาได้ดำเนินการและใช้มาโดยตลอด โดยเฉพาะความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากกรณีการวางวัตถุระเบิดในดินแดนไทย ที่ไทยเพิ่งรายงานต่อประชาคมโลก

 

เหตุปะทะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลัง 3 วันที่ไทยได้มีการแถลงต่อการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการเปิดเผยกรณีที่กัมพูชาละเมิดพันธกรณีวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทยหลายครั้ง กัมพูชาพยายาม สร้างภาพว่าตนเป็นฝ่ายถูกคุกคาม ถูกรังแกมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถตอบคำถามกับประชาคมโลกต่อการกระทำการยั่วยุ ฝ่ายไทยจึงตอบโต้เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและรักษาอธิปไตย

 

นายสีหศักดิ์ ได้มีการยกตัวอย่างข้อมูลบิดเบือน เช่น การใช้ภาพเก่ากล่าวหาการตอบโต้ของไทย ทำให้เด็กนักเรียนชาวกัมพูชาต้องวิ่งหนีชุลมุน ทั้งที่มีการประกาศอพยพคนออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว รวมถึงหลายหน่วยงานของกัมพูชา ให้ข้อมูลเท็จว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเป็นเหตุให้กัมพูชาต้องตอบโต้เพราะป้องกันตนเองในเวลาอันสั้น ทั้งนี้ฝ่ายกัมพูชายังมีการเผยแพร่เอกสารในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง

 

หลังจากการบรรยายสรุปในวันนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญเอกอัครราชทูตมาเลเซียและอุปทูตสหรัฐอเมริกา มาพบในฐานะที่เป็นประเทศสักขีพยานในการลงนามถ้อยแถลง (Joint Declaration)

 

โดยมีหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา ส่งหนังสือเวียนชี้แจงเหตุการณ์ไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ และมีหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว

 

นายนิกรเดช ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าหน่วยงานไทยทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ มีเอกภาพเพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนคนไทย ท่ามกลางความอ่อนไหวของสถานการณ์และการบิดเบือน ข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางทางการ

 

ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพ หรือกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไม่ใช่เลือกนำเสนอข้อมูลบางส่วนเพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น และหลังจากนี้จะมีการแถลงข่าวเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลข่าวสารที่ได้มีการตรวจสอบแล้วอย่างทันท่วงที

 

เมื่อถามถึงสถานะทางการทูต ระหว่างไทยกับกัมพูชา นายนิกรเดช ยืนยันว่าเราลดความสัมพันธ์กับกัมพูชามานานแล้วก็ยังคงสถานะนี้อยู่ ตอบไม่ได้ว่าจะไปไกลกว่านี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาด้วย สิ่งที่เราทำได้คือเราจะพยายาม ดูแลคนไทยในกัมพูชา โดยจะมีการประเมินสถานการณ์รายวัน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube