“โค้ชตั้ม” มั่นใจสองล้อถนนซีเกมส์ ทะลุเป้าได้เกิน 2 ทองแน่นอน

“จุฑาธิป-พีระพล-เพชรดารินทร์” 3 นักปั่นทีมชาติไทยฟิตเกินร้อย “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท มั่นใจนักปั่นประเภทถนนทีมชาติไทยมีโอกาสคว้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มากกว่า 2 เหรียญทอง ด้าน “เสธ.หมึก” ให้กำลังใจนักกีฬาทุกคน ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และเพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล

 

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า การแข่งขันจักรยานกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในประเภทถนน จะแข่งขันระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม โดยมีชิง 7 เหรียญทอง จากรายการ ทีมไทม์ไทรอัลชาย, ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย, ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง, ไครทีเรียมหญิง, โรดเรซทีมชาย, โรดเรซบุคคลชาย และโรดเรซบุคคลหญิง ซึ่งนักกีฬาทีมชาติไทยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดนครนายก ภายใต้การควบคุมของ “โค้ชตั้ม” พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท รองประธานฝ่ายเทคนิค และหัวหน้าผู้ฝึกสอน, “โค้ชบาส” พ.อ.อ.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และ มร.ลี เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน

 

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานจากโค้ชวิสุทธิ์ นักกีฬาทุกคนมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ดี ไม่มีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยแต่อย่างใด ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะลงแข่งขันมาก ช่วงเวลาที่เหลืออีก 6 วันนี้ สตาฟฟ์โค้ชวางแผนให้นักกีฬาซ้อมเบา ๆ เพื่อเก็บแรงและความสดเอาไว้ใช้ตอนแข่งขันจริง และช่วงที่ตนเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจนักกีฬาที่วังยาว ริเวอร์ไซต์ รีสอร์ต ก็ได้เข้าไปดูแลความเป็นอยู่ของนักกีฬา ทั้งเรื่องอาหารการกินต้องอุดมสมบูรณ์ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เรื่องที่พักต้องมีความสะดวกสบาย อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง รวมถึงเรื่องเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมและเบี้ยเลี้ยงแข่งขันสมาคมฯ ก็ได้สำรองจ่ายไปก่อนครบทุกบาททุกสตางค์ เพื่อให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจ มีสมาธิในการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่

 

“สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทถนน สมาคมกีฬาจักรยานฯ วางเป้าหมายว่าจะคว้าอย่างน้อย 2 เหรียญทอง แต่ทางสตาฟฟ์โค้ชก็มองว่าอาจจะได้มากกว่า 2 เหรียญ หากทำได้ก็ถือว่าทะลุเป้าหมาย ซึ่งผมไม่อยากให้นักกีฬามีความกดดัน ก็ได้ให้กำลังใจพวกเขาไปว่าขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และเพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเส้นทางแข่งขัน จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะนำธงชาติไทยไปแจกให้แฟน ๆ ร่วมเชียร์นักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ด้วย ขอขอบคุณครับ” พลเอกเดชา กล่าว

 

ด้าน “โค้ชตั้ม” กล่าวว่า จากการเก็บสถิติของนักกีฬาที่ฝึกซ้อมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี นักกีฬาทุกคนมีพัฒนาการที่ดี แม้ว่าบางคนอาจจะอายุมากอย่าง “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง แต่ตอนนี้ร่างกายสมบูรณ์สุดขีด มีโอกาสคว้าเหรียญทองจากไทม์ไทรอัลบุคคลชาย รวมทั้งทีมไทม์ไทรอัลชาย แต่พีระพลจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวก็คือ ไอมาน คาห์ยาดี จากอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามเส้นทางแข่งขันเรากำหนดให้เส้นชัยอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ 2 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่ง “มะตูม” ปั่นขึ้นเขาได้ดีกว่า ไอมาน คาห์ยาดี และนักกีฬาของไทยมีโอกาสฝึกซ้อมเส้นทางเป็นเวลาหลายเดือน จึงค่อนข้างได้เปรียบในฐานะเจ้าภาพ

 

โค้ชวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนคิดว่าทีมไทยยังจะได้ลุ้นเหรียญทองจาก “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช ในรายการไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง ซึ่งปล่อยตัวจากด่านเนินหอมไปเข้าเส้นชัยที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ 2 เช่นเดียวกับทีมชาย และเพชรดารินทร์มีความถนัดในการปั่นขึ้นเขาอยู่แล้ว ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวคือ อายุสตินา เดเลีย ปริอัตนา จากอินโดนีเซีย แต่ว่าไม่ถนัดปั่นขึ้นเขา จะถนัดปั่นทางเรียบมากกว่า ส่วนทางด้าน “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ที่จะลงแข่งขันรายการแรกในรายการไครทีเรียม ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก ทางสตาฟฟ์โค้ชก็ได้พาไปฝึกซ้อมเส้นทางมาหลายครั้งจนจุฑาธิปคุ้นเคยกับเส้นทาง และการเข้าโค้งทุกโค้ง หากไม่มีอะไรผิดพลาด จุฑาธิปน่าจะได้ลุ้นเหรียญทอง โดยมี เหงียน ทิ ทัต คู่ปรับเก่าจากเวียดนามเป็นคู่แข่งสำคัญ

 

“ผมมั่นใจว่าทีมจักรยานประเภทถนนน่าจะทำผลงานได้มากกว่า 2 เหรียญทอง เพราะดูจากสถิติและการเก็บข้อมูลของนักปั่นไทยและคู่แข่งแล้ว นักกีฬาของเรามีสถิติที่ดีกว่ามาก สำหรับจุฑาธิป นอกจากลงแข่งขันประเภทถนนแล้วก็ยังลงแข่งขันประเภทลู่รายการสแครตช์อีก 1 รายการ และจากการที่จุฑาธิปไปฝึกซ้อมร่วมกับนักกีฬาประเภทลู่เมื่อ 2-3 วันก่อน สามารถทำเวลาได้ดีมากจากการฟลายอิ้ง 200 เมตร ก็ทำเวลา 11.80 วินาที ทำลายสถิติตัวเอง 11.90 วินาที ที่เคยทำไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน แสดงให้เห็นว่าจุฑาธิปมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีความมั่นใจอย่างเต็มที่” โค้ชวิสุทธิ์กล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN