Home
|
ข่าว

ดราม่าซีเกมส์งานชุ่ย ยิ่งใกล้วันแข่ง ยิ่งวิบัติ

Featured Image
ซีเกมส์เผชิญประเด็นดราม่า พิธีเปิดเปลี่ยนทีมกะทันหัน เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาล่าช้า ความผิดพลาดของธงชาติ และการออกบัตรสื่อที่ล่าช้าในวันแข่ง ทำให้หลายฝ่ายคิด ซีเกมส์ยิ่งใกล้วันแข่ง ยิ่งวิบัติ

 

“พวกคุณเล่นอะไรกันอยู่” คือคำถามจากเหล่าสื่อมวลชน และแฟนกีฬาชาวไทยถึงระบบการทำงานหลังบ้านของมหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ยิ่งใกล้วันแข่ง ก็ยิ่งพบแต่ปัญหา จนเกิดเป็นดราม่าระอุบนโลกโซเชียล เพราะแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เกิดเรื่องฮือฮาให้ต้องปวดขมับขึ้นมากมาย

 

 

ไดเรกเตอร์พิธีเปิด–ปิดซีเกมส์ โพสต์เปิดใจ ถูกยกเลิกงานกระทันหัน ทั้งที่เตรียมงานกว่า 7 เดือน

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา เรืองฤทธิ์ สันติสุข ไดเรกเตอร์พิธีเปิด–ปิดซีเกมส์ ออกมาโพสต์ข้อความยาวผ่านเฟซบุ๊ก “Rueangrith Suntisuk Ton” เปิดใจถึงเบื้องหลังความผิดหวัง หลังถูกยกเลิกจากตำแหน่งผู้ออกแบบพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ทั้งที่ทำงานเตรียมงานร่วมกับทีมมานานกว่า 7 เดือน โดยระบุว่าเพิ่งทราบว่ามีทีมใหม่เข้ามาทำงานแทนตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

จนส่งผลให้เกิดภาพในสนามกีฬาราชมังฯ ที่จะใช้เป็นสถานที่จัดพิธีเปิดงาน ถูกพูดถึงหลายๆภาพ ซึ่งภาพที่ได้รับการพูดถึงที่สุด คือภาพคบเพลิง และป้ายที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านล่าง หลายคนบอก เหตุใดงานถึงได้ดูลวกๆ แถมโลโก้สปอนฯ ยังใหญ่กว่าชื่อประเทศและชื่องาน หลายคนเลยเอาไปโยงกับโพสต์ก่อนหน้า ว่า น่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ทำให้ผู้จัดพิธีเปิด-ปิดรายใหม่มีเวลาเตรียมการณ์น้อย ด้วยเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น เป็นเหตุให้งานออกมาดูเผา ไม่สมการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในรอบ 18 ปี

 

 

เบี้ยเลี้ยงช้า นักกีฬาหมดกำลังใจ

อริศรา นุ่นเอียด หรือ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า นักมวยไทยทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โพสต์ถามถึงเงินเบี้ยเลี้ยงซีเกมส์ ที่กำลังจะเริ่ม ที่ตลกร้ายคือ มงกุฎเพชร เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ถูกดึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซีเกมส์ ซึ่งได้มีการนำภาพของมงกุฎเพชรไปโปรโมตยังสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงตามโซเชียลทั่วไป

 

มงกุฎเพชร ได้กล่าวไว้ในโพสต์ไว้ว่า

 

“ตอนแรกบอก 5 วันไม่เกิน 7 วันมั้ง บอกอาทิตย์นี้อาทิตย์นี้ออกแน่นอนก็ยังเงียบไม่เห็นมีอะไรเลยค่ะ ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 10 วันจนจะแข่งแล้วนะคะท่านผู้ใหญ่ จะให้พวกหนูเอากำลังใจมาจากไหนไปแข่งค่ะ พวกหนูก็มีภาระที่จะต้องใช้จ่ายนะคะพี่บางคนก็มีลูกมีครอบครัวยิ่งภาระเยอะค่ะ เห็นใจพวกหนูด้วยนะคะ”

 

 

ฝ่ายจัดพลาด ขึ้นธงผิดกระทั่งบ้านเกิด

ดราม่าระอุขึ้นไปอีก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา โปรแกรมฟุตบอลหญิงซีเกมส์ 2025 ใส่ธงชาติผิดอีกครั้ง “ไทย” เป็น “เวียดนาม” ส่วน “อินโดนีเซีย” เป็น “สปป.ลาว” สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง

ซึ่งก่อนหน้านี้เอง ก็มีเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว ที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ฟุตซอล ชิงแชมป์อาเซียน 2025 รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เกิดข้อผิดพลาดในการใช้ “ธงชาติเวียดนาม” กลายเป็น “ธงชาติจีน” เกิดเรื่องราวใหญ่โตระดับชาติ เป็นประเด็นดราม่าในโลกโซเชี่ยลอย่างรุนแรง

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้เอง ก็ได้สร้างความปั่นป่วนแก่แฟนกีฬาชาวไทยไม่แพ้กัน เกิดเป็นการตั้งข้อสงสัย รวมถึงความไม่เข้าใจถึงระบบการทำงานของฝ่ายจัด ที่ควรมีความเป็นระบบระเบียบ และรอบคอบมากกว่านี้

 

AD CARD วันแข่งแล้วพึ่งได้

AD Card ของสื่อในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2025 ที่กำลังเป็นประเด็นว่า “ทำไม่ทัน” ในวันแถลงข่าวแมตช์แรกของฟุตบอลชาย และเกือบไม่ทันจริงๆ สำหรับเกมแรกของ ทีมชาติไทย

 

โดยขณะที่สื่อต่างประเทศบางส่วนเดินทางมาถึงแล้วแต่ยังไม่ได้บัตรและไม่มีระบบรองรับชัดเจน ทั้งที่มาตรฐานมหกรรมกีฬานานาชาติมักเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้า 6 เดือน ถึง 1 ปี และส่งบัตรให้สื่อก่อนงานราว 1 เดือน ทว่าซีเกมส์ครั้งนี้กลับเปิดสมัครเพียง 5 เดือนและใช้ระบบกรอกเอกสารแบบกระดาษ แทนที่ระบบออนไลน์ ทำให้กระบวนการล่าช้าและสะท้อนความไม่พร้อมของฝ่ายจัดการแข่งขัน

ท่ามกลางกระแสดราม่าที่ถาโถมเข้าใส่ซีเกมส์ 2025 แทบทุกวัน สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารจัดการที่สะเปะสะปะและขาดความเป็นมืออาชีพอย่างน่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นพิธีเปิดที่เปลี่ยนทีมกระทันหัน เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาล่าช้า ความผิดพลาดในรายละเอียดพื้นฐานอย่างธงชาติ ไปจนถึงการออกบัตรสื่อที่ล่าช้าในวันแข่ง

 

สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อภาพลักษณ์ของเจ้าภาพโดยตรง เหลือเวลาอีกไม่มากก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ทุกสายตาจึงจับจ้องไปยังฝ่ายจัด ว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันหรือไม่ เพื่อกอบกู้ศรัทธาและทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้เดินหน้าไปต่อในฐานะเจ้าภาพ

 

   

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube