Home
|
ทั่วไป

Rain-bomb ซัดหาดใหญ่! เกิดอะไรขึ้นปีนี้

Featured Image

 

จากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ในภาคใต้ หลายจังหวัดได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะ พัทลุง สตูล นคร และที่หนักสุด คือ สงขลา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

 

ล่าสุด เพจ คุณหมอ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ได้อธิบายสาเหตุสำคัญ ของ “น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ 2568” ซึ่งเริ่มจากเหตุการณ์ “Rain-bomb” บริเวณเขาคอหงส์

 

ทำไมปีนี้น้ำถึงมาท่วมเร็วและแรงกว่าคาด?

 

เริ่มจาก คืนวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ก่อนฝนตกหนัก คลอง ร1 ยังมีระดับน้ำต่ำกว่าขอบคลองมาก คนส่วนใหญ่มั่นใจว่า “ปีนี้ไม่น่าท่วม” เพราะปีที่แล้วน้ำเยอะกว่านี้ยังเอาอยู่ แต่ปีนี้ฝนกลับตกแบบหนักมาก และต่อเนื่องในคืนเดียวกว่า 300 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก

 

“Rain-bomb” ที่เขาคอหงส์ คือจุดเริ่มต้น ฝนที่ตกหนักเฉพาะจุดทำให้ อ่างแก้มลิงเขาคอหงส์ล้น น้ำจากแนวเขาคอหงส์ไหลบ่าลงมารวดเร็ว คลอง 30 เมตรรับน้ำไม่ไหว น้ำจึงไหลเข้าท่วมเขตเมืองหาดใหญ่โดยตรง

 

ปัญหาใหญ่คือ: ฝั่งคอหงส์ท่วมก่อน แต่การเฝ้าระวังมักดูที่ คลอง ร1 ซึ่งรับน้ำจากสะเดา ทำให้สัญญาณเตือนภัย “มาช้า” เพราะคลอง ร1 ยังไม่ล้นในช่วงแรก

 

คำถามคือ ทำไมท่วมแล้วน้ำไม่ลด?

ถึงแม้เมืองจะมีทางระบายน้ำออก เช่น คลอง ร5 คลอง 30 เมตร แต่ปริมาณฝนจาก rain-bomb มากเกินระบบจะรับไหว บวกกับน้ำจาก นาหม่อม – คลองเรียน – สะเดา – ทุ่งลุง ไหลมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำท่วมเพิ่มต่อเนื่อง

 

ต่อมาเมื่อ คลองอู่ตะเภา และ คลอง ร1 เริ่ม “ปริ่มและล้น” ทำให้น้ำจากเมืองไหลออกไม่ได้ ระดับน้ำจึงทรงตัวสูง จนถึงวันอาทิตย์

 

จนสถานการณ์เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ฝั่งเขาคอหงส์ฝนเริ่มเบาลง แต่ฝนตกหนักขยับเข้าไปในแผ่นดิน น้ำจากสะเดา-ทุ่งลุงกำลังไหลลงมาสมทบ ขณะที่คลองหลักยังคงใกล้ล้น ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ของหาดใหญ่ยังวิกฤต โดยเฉพาะโซนชานเมืองด้านตะวันตกและตำบลรอบนอก

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ภาวะโลกร้อนกำลังทำให้รูปแบบน้ำท่วมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมืองหาดใหญ่จำเป็นต้องปรับระบบเตือนภัย การจัดการน้ำ และจุดอ่อนโครงสร้าง เพราะ Rain-bomb แบบเฉพาะจุดอาจเกิดขึ้นอีกได้ทุกเมื่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube