Home
|
ข่าว

ปชน.เปิด3ชื่อแคนดิเดตนายกฯ “ณัฐพงษ์-ศิริกัญญา-วีระยุทธ”

Featured Image
พรรคประชาชน เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 รายชื่อ “ณัฐพงษ์” ชูทีมบริหารตรงไปตรงมา ไม่ใช่ “นายกฯ กล่องสุ่ม” มั่นใจไปต่อได้ แม้มีคดี 44 ส.ส. ขณะ “ธนาธร” เปิดวิสัยทัศน์ “เมกะโปรเจกต์สีส้ม” 6.3 แสนล้านใน 8 ปี พาประเทศไทยก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้ว

 

พรรคประชาชนเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่ออย่างเป็นทางการ นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ตามด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย และนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคฝ่ายยุทธศาสตร์ โดยยืนยันว่า เป็นการจัดลำดับจริงแบบตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้ประชาชน “เดาเอาเอง” เหมือนการสุ่มเลือกนายกฯ ตามกลไกการเมืองแบบเดิม

 

นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พรรคเลือกผู้เหมาะสมกับภารกิจหลักของประเทศ โดยนายวีระยุทธจะดูแลด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเพื่อพาไทย “ทันโลก” ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา จะเน้นการปฏิรูประบบราชการและโครงสร้างงบประมาณ เพื่อยกระดับ
คุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมประกาศคำมั่น “ทำให้ไทยไม่เทา” ด้วยมาตรการปราบทุจริตอย่างจริงจัง แม้เป็นคนในพรรคเดียวกันก็ต้องจัดการตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่า พรรคประชาชนต้องการนำเสนอ “ความชัดเจน” แก่ประชาชนว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ใครจะเป็นเบอร์สอง เบอร์สาม โดยทั้งทีมจะทำงานร่วมกัน ส่งต่อภาพประเทศไทยที่เท่าเทียม โปร่งใส และทันต่อการแข่งขันโลก

 

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงคดี 44 ส.ส. ว่า อยู่เหนือการควบคุม แต่ขอยืนยันทั้งหมดเป็นการใช้อำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมมั่นใจว่าหากเกิดเหตุทางการเมือง พรรคยังมีบุคลากร ที่พร้อมสานต่อภารกิจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

ส่วนการร่วมรัฐบาลในอนาคต นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า พรรคประชาชน “ไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง” ระหว่างเพื่อไทยหรือภูมิใจไทย แต่จะดูจากวาระสำคัญของประเทศเป็นหลัก “เราเหมือนการทูตระดับโลก เลือกวาระ ไม่เลือกข้าง” พร้อมระบุว่า หากพรรคใดรับนโยบายได้ เปิดเผย โปร่งใส และพูดคุยอย่างจริงใจ ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ส่วนประเด็นดราม่าการคัดเลือกผู้สมัครภายในพรรค ขอยืนยันว่า กระบวนการโปร่งใสที่สุดในบรรดาพรรคการเมือง เปิดกว้างให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

 

แต่เข้าใจความผิดหวังของผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือก พร้อมฝากถามกลับว่า “คุณเข้ามาทำงานการเมืองเพราะอะไร” และย้ำว่า เป็น ส.ส. ไม่ใช่เป้าหมายเดียว ยังมีอีกหลายพื้นที่ให้ช่วยขับเคลื่อนงานการเมืองร่วมกัน

 

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงความกังวลหลังการเลือกตั้งว่า สิ่งเดียวที่กังวลที่สุด คือ “การชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล” แบบปี 2566 แม้รอบนี้จะไม่มี ส.ว. แต่ถ้าได้ต่ำกว่า 250 เสียง โอกาสเป็นฝ่ายค้านยังสูงถึง 80–90% จึงต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้ “เสียงข้างมากแบบเด็ดขาด” และตั้งเป้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

 

ส่วนความเป็นไปได้ที่นายวีระยุทธจะขึ้นเป็นนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เจ้าตัวระบุว่า ทั้งสามคนทำงานเป็นทีม แต่ย้ำว่า นายณัฐพงษ์ยังเหมาะสมที่สุดกับบริบทประเทศ ทั้งการแก้ปัญหาเป็นระบบ การเติมดิจิทัลเข้าสู่ภาครัฐ และ SME และความมุ่งมั่นเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

 

ขณะเดียวกัน ภายในกิจกรรม “รีชาร์จประชาชน Recharge the People” วันสุดท้าย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เปิดเวทีเสวนาหัวข้อ “Orange Megaprojects การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย” พร้อมชูแนวคิดการปฏิวัติคุณภาพชีวิตด้วยการลงทุนภาครัฐแบบมุ่งเป้ากว่า 6.3 แสนล้านบาทใน 8 ปี เพื่อเปลี่ยนไทยให้เป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างแท้จริง โดยชี้เศรษฐกิจไทยเติบโตถดถอย 30 ปี แข่งขันโลกไม่ได้ และปัญหาที่สะสมยาวนาน ทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจอ่อนแอ ล้มง่ายกว่าวิกฤตเฉพาะหน้า

 

 

นายธนาธร ชี้ว่า เงินภาษีของประชาชนต้องตอบ 4 เป้าหมายใหญ่ คือ 1.เพิ่มคุณภาพชีวิตคนไทย 2.สร้างงานที่มีคุณภาพ 3.สร้างอุตสาหกรรม–เทคโนโลยีใหม่ของไทย และ4.ทำให้ประเทศพร้อมรับอนาคต

 

พรรคประชาชน จึงเสนอ Orange Megaprojects มูลค่า 630,000 ล้านบาท ภายใน 8 ปี หรือเฉลี่ยปีละไม่ถึง 8 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งลงทุนสำคัญ เช่น 1)จัดการน้ำเสีย 60,000 ล้านบาท 2)น้ำประปาดื่มได้ 75,000 ล้านบาท 3)ขนส่งสาธารณะ 37,000 ล้านบาท 4)จัดการขยะ 183,000 ล้านบาท 5)ปรับปรุงโรงเรียน 50,000 ล้านบาท 6)แผนพัฒนาโรงพยาบาล 30,000 ล้านบาท 7)โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ 192,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดมีเป้าหมาย เพื่อยกระดับบริการสาธารณะให้ “ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้ว”

 

 

นายธนาธร ยอมรับว่า ตัวเลขอาจดูสูง แต่ย้ำว่าเป็นความจำเป็นของประเทศ หากไทยจะก้าวพ้นจากกับดักความยากจนและเศรษฐกิจชะงักงัก “หากเราไม่กล้าคิดอย่างทะเยอทะยาน เราจะไปไม่ถึง… ลองให้โอกาสพวกเราดู ผมคิดว่านี่คือเวลาที่ต้องกล้าทะเยอทะยาน” พร้อมยืนยันว่า หากพรรคประชาชนได้บริหารประเทศ การใช้งบประมาณจะ “ไม่สะเปะสะปะ” แต่มีเป้าหมายชัดเจน และการใช้เวลา 8 ปี จึงเป็นแผนที่เหมาะสมกับโปรเจกต์ระดับโครงสร้างคุณภาพชีวิตทั้งประเทศ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube