กต.ปักหมุดชั่วคราวไทย–กัมพูชาราบรื่น ยังไม่พบข้อมูลเขมรล้อมช่องบก
กต.ปฏิบัติการปักหมุดชั่วคราวชายแดนไทย–กัมพูชา ราบรื่น ชี้ กลไก JBC ยังมีประสิทธิภาพ ยันไทยเดินหน้าแก้ปัญหาบนพื้นฐานสันติภาพ ยังไม่พบข้อมูลเขมรส่งทหารปิดล้อมช่องบก พร้อมย้ำเตือนคนไทย หลังอินฟลูเอนเซอร์แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในญี่ปุ่น
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า การลงพื้นที่สำรวจและวางหมุดชั่วคราวในเขตบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยคณะสำรวจร่วมได้ดำเนินการในพื้นที่หลักเขตแดนที่ 42–47 ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่สองฝ่ายให้ความสำคัญ
นายนิกรเดช ระบุว่า การที่ไทยและกัมพูชาสามารถตกลงร่วมกันวางหมุดชั่วคราวได้อย่างสันติ เป็นสัญญาณชัดเจนว่ากลไกทวิภาคี โดยเฉพาะ JBC ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีสถานการณ์ตึงเครียดตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน กองทัพบกได้พาคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยจาก 17 ประเทศ รวม 20 คน ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อรับฟังบรรยายสรุปด้านความมั่นคง ติดตามงานปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และดูการ บริหารจัดการพื้นที่ชายแดน รวมถึงสำรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ตรงข้ามปอยเปต ประเทศกัมพูชา
คณะยังได้เดินทางไปยังบ้านหนองจานเพื่อตรวจเยี่ยมการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเพื่อดูจุดที่เคยเกิดเหตุฝ่ายกัมพูชาข้ามแดนเข้ามาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความพยายามของไทยในการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแก่ต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงและยึดหลักสันติภาพ ขณะที่กัมพูชามีการละเมิดและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหลายครั้ง
โฆษก กต. ยังตอบโต้ข้อมูลเท็จของกัมพูชา หลังฝ่ายกัมพูชาระบุว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของตนต้องยุติภารกิจ เพราะได้ยินเสียงคล้ายอาวุธจากฝั่งไทย โดยนายนิกรเดช ชี้ว่า ฝ่ายไทยตรวจสอบแล้ว ไม่พบการใช้อาวุธใด ๆ และเสียงดังกล่าวมีลักษณะคล้าย “ประทัด” มากกว่า เชื่อว่า อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายกัมพูชาเอง
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐไทยโดยตรง ทั้งนี้ ไทยมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของกระทรวงดิจิทัลฯ ที่ทำงานร่วมกับ กต. หน่วยงานความมั่นคง
และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อตอบโต้ข้อมูลบิดเบือนแบบวันต่อวัน ขณะเดียวกัน โฆษก กต. ระบุว่า ขณะนี้ไทยยังไม่ได้รับรายงานกรณีทหารกัมพูชานำกำลังไปปิดล้อมบริเวณเนิน 745 ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดีย
นอกจากนี้ นายนิกรเดช กล่าวถึงกรณีอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่สร้างพฤติกรรมไม่เหมาะสมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่า กรมการกงสุลได้มีการเตือนข้อปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวไทยอยู่แล้วทั้งเรื่องวัฒนธรรม และความเคารพสถานที่ต่าง ๆ โดยกรณีล่าสุดนี้ ขัดต่อจารีตของสังคมญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้งนี้ กรมการกงสุลอาจย้ำคำเตือนเข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ พร้อมเผยว่า ยังไม่มีการประสานใด ๆ จากรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณานโยบายฟรีวีซ่าที่ญี่ปุ่นมีให้กับประเทศไทย
นายนิกรเดช ทิ้งท้ายว่า สังคมไทยได้สะท้อนความไม่เห็นด้วยต่อพฤติกรรมของอินฟลูเอนเซอร์รายนั้นอย่างชัดเจนแล้ว และหวังว่ากรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้คนไทยตระหนักถึงการเคารพวัฒนธรรมประเทศปลายทางเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





