Home
|
ข่าว

”ช้างศึก” ยุค ”ฮัดสัน” เป็นไง..? หลังเปิดหัวเฉือน ”สิงคโปร์”

Featured Image

 

 

การประเดิมคุมทีมชาติไทยนัดแรกของ แอนโธนี ฮัดสัน แม้จะได้ชัยชนะเหนือ สิงคโปร์ 3–2 แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าผลการแข่งขัน คือ “แนวคิด” และ “แบบแผนทีม” ที่เริ่มค่อยๆ ปรากฏให้เห็นมากขึ้นในยุคใหม่ของช้างศึก แม้เวลาซ้อมจะมีเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นก็ตาม

 

 

ฮัดสันยังเลือกใช้ ระบบเดียวกับยุคอิชิอิ คือ 4-2-3-1 เพราะเป็นระบบที่นักเตะคุ้นเคยที่สุดในเวลาจำกัด ไม่ต้องปรับตัวเยอะ ขณะที่ตัวจริง 11 คนแรกมีสไตล์ใกล้เคียงยุคเดิม แต่อย่างไรก็ตาม “ตัวที่ไม่ได้ลงยุคเซนเซ” กลับถูกดึงกลับมาใช้งาน พรรษา เหมวิบูลย์ กลับมาเป็นแกนหลัก คู่กลาง สารัช ธีราทร ที่ไม่ได้จับคู่กันบ่อยในช่วงหลังโครงร่างที่เหลือเป็นหน้าเดิมๆ ชุดเข้มข้นของช้างศึก

 

จะเห็นได้ว่า ฮัดสัน “เน้นคนที่เชื่อใจได้” มากกว่าการทดลองทีม และมีแนวโน้มว่านี่คือโครงหลักที่เขาจะใช้ลุยนัดคัดเอเชียนคัพกับศรีลังกา

 

แม้จะเรียกดาวรุ่งหลายคน แต่สิ่งสะดุดตาคือ ผู้เล่นอายุ 30+ ถูกวางไว้ในจุดยุทธศาสตร์กลางสนามแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พรรษา 35 ปี ธีราทร 35 ปี ณัฐพงษ์ 33 ปี สารัช 33 ปี ชนาธิป 32 ปี

 

5 นักเตะ มีสถิติวิ่งเยอะที่สุด จากเกมไทย ชนะ สิงคโปร์
– ธีราทร 9.7 กิโล
– ธีรศักดิ์ 9 กิโล
– พรรษา 8.7 กิโล
– ณัฐพงศ์ 8.4 กิโล
– สารัช 8.2 กิโล

 

นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือแนวคิดชัดเจนของฮัดสันว่า “เกมแรกของยุคใหม่ ต้องการความนิ่งมากกว่าความหวือหวา”

 

ทั้งหมดนี้มีเพียงสารัชที่ถูกเปลี่ยนออกก่อนจบเกม ส่วนที่เหลือลงครบเต็มเกม สะท้อนว่าเขาถือเป็นเสาหลักด้านประสบการณ์จริงๆ

 

เกมนี้ไทยเริ่มต้นได้ดี ยิงนำเร็วจากวอลเลย์สุดงามของ สารัช อยู่เย็น แต่หลังจากนั้นสิงคโปร์กลับยกระดับขึ้นแบบน่าประหลาดใจ ทั้งการโต้กลับเร็ว การบุกฉาบฉวยใส่เซ็นเตอร์ไทยที่ยืนห่างกัน และแบ็กไทยที่บุกสูงจนเกิดช่องว่างขนาดใหญ่

 

สิงคโปร์ ตีเสมอ จากนั้นเกมกลับมาสูสี ไทยโดนบีบ จังหวะเปลี่ยนเกมโดนกด ไม่ง่ายแบบที่คิด และไม่ใช่ “ลอดช่อง” แน่นอน

 

ก่อนที่ครึ่งหลัง ไทยจะเร่งเครื่องด้วยประตูจาก ธีราทร และ เสกสรรค์ หนี 3-1 แต่ท้ายเกมก็ยังโดนไล่มา 3-2

 

แม้จะชนะ แต่เกมนี้สะท้อนว่า หากคู่กลางมี ธีราทร – สารัช ทีมจะคุมเกมดี แต่เกมรับกลางสนามอาจเปราะเมื่อเจอคู่แข่งสปีดจัด

 

การกลับมาของ “โก๋อุ้ม” ทำให้เกมไทยกลับมามีมิติอีกครั้ง ทั้งจังหวะวางบอลยาว, การตั้งลำเกม, และจังหวะบรรลุประตูสำคัญ ประตู 2-1 เกิดจาก คุณภาพล้วนๆ ของ ”โก๋อุ้ม”

 

เปิดตัว “จู๊ด ซุ่นทรัพย์-เบลล์” 30 นาทีแรกในสีเสื้อทีมชาติไทย เขา ลงมานาที 64 จู๊ดมอบสิ่งที่แฟนบอลอยากเห็น แข็งเเรง ดุดัน และเล่นแล้วทีมเดินหน้า เขาได้จังหวะเน้นๆหลายครั้ง ทั้งโหม่งทั้งดวลตัวต่อตัว และยังเรียกจุดโทษจากจังหวะสปีดกระชากจนโดนสกัดล้ม

 

แม้สุดท้ายยิงจุดโทษติดเท้าผู้รักษา ทำให้ชวดประตูเปิดซิง แต่ฟอร์มโดยรวม “สอบผ่านในระดับหนึ่ง เเต่ยังไม่เด่นชัด” ถ้าลูกจุดโทษนั้นเข้าคงเป็นกระแสระเบิดยิ่งกว่านี้

 

ฟาก ยอดผู้ชมสูงสุดในรอบหลายเกม แม้จะมีดราม่าบอยคอตต์หรือยอดขายล่วงหน้าที่ดูไม่ดี แต่ความจริงแล้ว เกมอุ่นเครื่อง ไม่ใช่เกมที่แฟนบอลจะรีบซื้อบัตรล่วงหน้าอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งรอเช็กสภาพอากาศ เผื่อฝนตกหรือน้ำท่วม สุดท้ายยอดคนดูทะลุ 10,205 คน มากกว่าสามนัดอุ่นเครื่องก่อนหน้าที่ธรรมศาสตร์ทั้งหมด

 

เกมแรกยุค ฮัดสัน เห็นอะไรบ้าง

-ทีมมีรูปแบบที่ชัดจากโครงเดิม แต่ใส่ความแน่นอนแบบประสบการณ์เข้าไป
-จุดแข็งคือการคุมเกมจากรุ่นใหญ่
-จุดอ่อนคือสปีดเกมรับ เมื่อถูกโจมตีตรงกลาง
-ดาวรุ่งอย่าง จู๊ด พร้อมเป็นอาวุธที่ดี
– ทีมยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อความลงตัวสมบูรณ์แแบบ

 

ชัยชนะ 3-2 ไม่ได้ใสๆ แต่เต็มไปด้วยสิ่งให้ ฮัดสัน ต้องนำไปปรับปรุง พัฒนา เพื่อเตรียมสู้เกมสำคัญระดับคัดเอเชียนคัพ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube